รัฐวิกตอเรียในออสเตรเลียพบผู้ป่วยโควิดในรอบ 3 เดือน

เมลเบิร์น 24 พ.ค. – รัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่สองของออสเตรเลีย พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 4 คนในนครเมลเบิร์น เป็นการติดเชื้อในชุมชนครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือน


นายมาร์ติน โฟลีย์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะนิ่งนอนใจ ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ทั้งสี่คน ในจำนวนนี้ มีเด็กก่อนวัยเรียน 1 คน ทั้งหมดเป็นสมาชิกครอบครัวใหญ่ที่แบ่งออกเป็น 2 ครอบครัวในย่านชานเมืองทางตอนเหนือของนครเมลเบิร์น ขณะนี้รัฐวิกตอเรียกำลังสืบสวนที่มาของการติดเชื้อ เจ้าหน้าที่กำลังวิตกกังวลว่าอาจมีความเชื่อมโยงที่ขาดหายไประหว่างการระบาดเป็นกลุ่มก้อนกับชายคนหนึ่งที่เดินทางมายังนครเมลเบิร์น หลังสิ้นสุดมาตรการกักตัวในนครแอดิเลดของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย และมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกในช่วงก่อนหน้านี้

รัฐวิกตอเรียได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากโรคโควิด-19 ที่ระบาดระลอกสองในออสเตรเลียเมื่อปลายปีก่อน โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อคิดเป็นอัตราร้อยละ 70 และมีผู้เสียชีวิตร้อยละ 90 จากยอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมของออสเตรเลียกว่า 30,000 คน และผู้เสียชีวิต 910 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว


ออสเตรเลียฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกให้แก่ประชาชนได้เพียง 3.6 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 25 ล้านคน ขณะที่ชาวออสเตรเลียหลายคนเริ่มลังเลใจ หรือไม่ยอมไปฉีดวัคซีนเพราะเชื่อมั่นว่าประเทศควบคุมการระบาดได้ดี อย่างไรก็ดี นายเบร็ตต์ ซัตตัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐวิกตอเรียระบุว่า ออสเตรเลียจะไม่เป็นพื้นที่ปลอดภัยจนกว่าประชาชนจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้มากกว่า 15 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย