ย่างกุ้ง 16 พ.ค.- สมาชิกกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาเผยว่า ทางกลุ่มได้ล่าถอยออกจากเมืองมินดัต ในรัฐชิน ทางตะวันตกของประเทศแล้ว หลังจากกำลังพลกองทัพเมียนมาบุกโจมตีหลายวันพร้อมกับยิงปืนใหญ่ถล่ม
การสู้รบในเมืองมินดัตที่อยู่ห่างจากพรมแดนอินเดีย 100 กิโลเมตร มีความรุนแรงที่สุดจุดหนึ่งนับตั้งแต่สถานการณ์ในเมียนมาเกิดความวุ่นวายหลังการรัฐประหาร นักรบของกองกำลังป้องกันดินแดนชินที่ตั้งขึ้นไม่นานเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาเผยว่า ทางกลุ่มได้ล่าถอยแล้วเพราะเกรงเมืองจะเสียหายหนักจากการสู้รบ เด็กผู้ชายและผู้ชายที่เป็นนักรบพากันหนีออกมาแล้ว เหลือเพียงเด็กและผู้หญิงอยู่ในเมืองที่ถูกกองทัพเข้ายึดครองเป็นส่วนใหญ่ เว็บไซต์วิทยุเอเชียเสรีหรืออาร์เอฟเอ (RFA) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอ้างสมาชิกกลุ่มว่า นักรบถูกสังหาร 5 คน แต่เชื่อว่าสามารถสร้างความเสียหายหลายครั้งให้แก่กองทัพเมียนมาที่รู้จักกันในชื่อ ทัตมาดอว์ ขณะที่สถานีโทรทัศน์เมียวดีของกองทัพเมียนมารายงานเมื่อวันเสาร์ว่า สมาชิกกองกำลังความมั่นคงเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง สูญหายจำนวนหนึ่ง หลังจากถูกกลุ่มคนไร้ศีลธรรมโจมตี แต่จะเดินหน้านำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาให้ได้
รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติที่เป็นรัฐบาลเงาของเมียนมาแถลงเรียกร้องประชาคมโลกดำเนินการโดยทันทีเพื่อยุติความรุนแรงทั้งหมดของทัตมาดอว์ และคุ้มครองชาวเมืองมินดัตที่ไม่สามารถปกป้องตนเอง สถานทูตสหรัฐในเมียนมาแถลงว่า การที่กองทัพเมียนมาใช้อาวุธสงครามกับพลเรือน รวมทั้งชาวมินดัตในสัปดาห์นี้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่ากองทัพต้องการผูกขาดอำนาจมากเพียงใด ขอเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงกับพลเรือน ขณะที่สถานทูตอังกฤษในเมียนมาแถลงว่า ควรส่งหลักฐานความโหดร้ายให้คณะสอบสวนของสหประชาชาติตรวจสอบ เพื่อให้ผู้บงการถูกลงโทษ สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองอ้างว่า มีคนถูกสังหารแล้วอย่างน้อย 790 คน นับตั้งแต่กองทัพปราบปรามผู้ต่อต้านการรัฐประหารที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย