กาฐมาณฑุ 13 พ.ค. – นักปีนเขาชาวสวิตเซอร์แลนด์และชาวอเมริกันเสียชีวิตบนยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งถือเป็นผู้เสียชีวิต 2 รายแรกในช่วงฤดูปีนเขาของปีนี้
ผู้จัดการบริษัทเซเวน ซัมมิต เทรกส์ (Seven Summit Treks) ซึ่งให้บริการสนับสนุนการปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ เปิดเผยว่า นักปีนเขาชาวสวิตเซอร์แลนด์ วัย 41 ปี และนักปีนเขาชาวอเมริกัน วัย 55 ปี เสียชีวิตจากอาการหมดแรง ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังลงจากเนินเขาที่ระดับความสูง 8,848 เมตรเมื่อวันพุธ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า บริษัทได้ส่งชาวเชอร์ปา ซึ่งเป็นผู้นำทางและผู้ช่วยแบกสัมภาระบนเทือกเขาหิมาลัย พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นและออกซิเจนเพิ่มเติม เพื่อไปช่วยเหลือนักปีนเขาทั้งสองคน แต่โชคร้ายที่ชาวเชอร์ปาไม่อาจช่วยชีวิตพวกเขาได้
ในขณะเดียวกัน ชาง ดาวา เชอร์ปา (Chhang Dawa Sherpa) บริษัทให้บริการสนับสนุนการปีนเขาอีกแห่งเผยว่า นักปีนเขาชาวสวิตเซอร์แลนด์เสียชีวิตในพื้นที่ใกล้ยอดเขาทางใต้ในระหว่างที่เขากำลังเดินทางกลับหลังพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ขณะที่นักปีนเขาชาวอเมริกันพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ไม่สำเร็จและเสียชีวิตขณะกำลังลงจากเนินเขาใกล้ค่ายในพื้นที่เซาท์โคลที่ระดับความสูงเกือบ 7,900 เมตร หลังมีอาการตาบอดชั่วคราวจากแสงที่สะท้อนจากหิมะและหมดแรง
นักปีนเขาจากทั่วโลกกว่า 6,000 คนได้เดินทางมายังยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นยอดเขาสูงที่สุดในโลก นับตั้งแต่เอดมันด์ ฮิลลารี นักปีนเขาชาวนิวซีแลนด์ และเทนซิง นอร์เก ผู้นำทางชาวเชอร์ปา ได้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ครั้งแรกในปี 2496 โดยมีนักปีนเขาที่เสียชีวิตบนเนินเขาอย่างน้อย 311 คน ในปีนี้เนปาลได้ออกใบอนุญาตปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ 408 ใบในฤดูปีนที่เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤษภาคม หลังจากที่ปีก่อนไม่อนุญาตให้ปีนเขา เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19.-สำนักข่าวไทย