จีนตำหนิแถลงการณ์กลุ่ม G7 หนุนไต้หวัน-ใส่ร้ายจีน

ปักกิ่ง 6 พ.ค. – จีนตำหนิแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) ว่าให้การสนับสนุนไต้หวัน และทำให้รัฐบาลจีนดูเหมือนผู้ข่มเหง ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรง


โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวว่า จีนขอประณามแถลงการณ์ร่วมของกลุ่ม G7 ว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ไร้เหตุผล ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรง กลุ่ม G7 ควรดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ไม่ใช่ทำให้เกิดความแตกแยก ทั้งนี้ จีนระบุว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนและต่อต้านตัวแทนอย่างเป็นทางการของไต้หวันในเวทีโลก นอกจากนี้ จีนยังได้ยกระดับกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ใกล้กับไต้หวันในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่ออ้างสิทธิการปกครองเหนือไต้หวัน

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไต้หวันเผยว่า แถลงการณ์ร่วมของกลุ่ม G7 ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวถึงไต้หวันในแถลงการณ์ร่วม ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันได้กล่าวขอบคุณการสนับสนุนของกลุ่ม G7 โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันกล่าวว่า ไต้หวันจะกระชับความร่วมมือกับประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 อย่างต่อเนื่อง และยังคงมีส่วนร่วมในการสร้างพลังบวกที่ยิ่งใหญ่เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนและสุขภาพโลก รวมถึงสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่งคั่งในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก


ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม G7 ระบุในแถลงการณ์ร่วมหลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ที่กรุงลอนดอนของอังกฤษว่า จีนมีความผิดฐานละเมิดสิทธิมนุษยชนและใช้อำนาจทางเศรษฐกิจเพื่อข่มเหงประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ กลุ่ม G7 ยังได้กล่าวสนับสนุนไต้หวันที่เข้าร่วมการประชุมประจำปีขององค์การอนามัยโลกและการประชุมสมัชชาอนามัยโลก และยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการกระทำเพียงฝ่ายเดียวที่อาจทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในช่องแคบไต้หวัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย