นิวเดลี 5 พ.ค. – อินเดียพบผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้น 3,780 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากที่เมื่อวานนี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่สองของโลกที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทะลุ 20 ล้านคนต่อจากสหรัฐ
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขอินเดียระบุว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 382,315 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3,780 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 20.6 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 226,000 คน ขณะที่แบบจำลองของรัฐบาลอินเดียชี้ว่า อินเดียจะเผชิญกับจุดสูงสุดของการระบาดภายในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ไม่กี่วัน เนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดรวดเร็วกว่าที่คาด นอกจากนี้ การระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียยังทำให้โรงพยาบาลประสบปัญหาขาดแคลนเตียงผู้ป่วยและออกซิเจน สถานเก็บศพและที่เผาศพมีไม่เพียงพอ รวมถึงทำให้ชาวอินเดียหลายคนเสียชีวิตในรถพยาบาลและที่ลานจอดรถในขณะที่กำลังรอเตียงผู้ป่วยหรือออกซิเจน
นายไพยุช โกยาล รัฐมนตรีกระทรวงการรถไฟอินเดีย ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า รถไฟด่วน 2 ขบวนที่บรรทุกออกซิเจนเหลว ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่ง กำลังเดินทางมาถึงกรุงนิวเดลีในวันนี้ และทางการได้ปล่อยขบวนรถไฟกว่า 25 ขบวนออกเดินทางจัดส่งออกซิเจนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของอินเดีย รัฐบาลอินเดียเผยว่า ขณะนี้อินเดียมีออกซิเจนเพียงพอ แต่กำลังประสบปัญหาด้านการขนส่ง อย่างไรก็ดี พรรคฝ่ายค้านของอินเดียได้เรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ แต่รัฐบาลไม่อยากใช้มาตรการดังกล่าวเพราะหวั่นเกรงผลกระทบรุนแรงทางเศรษฐกิจ แม้รัฐบาลท้องถิ่นของหลายรัฐในอินเดียได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมทางสังคมไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกระบุว่า อินเดียพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตคิดเป็นอัตราร้อยละกว่า 90 ของภูมิภาค มียอดผู้ป่วยติดเชื้อคิดเป็นร้อยละ 46 และมีผู้เสียชีวิตร้อยละ 25 ของยอดรวมทั่วโลกในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่หนังสือพิมพ์ดิอีโคโนมิก ไทมส์ ของอินเดียรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายรายให้ความเห็นว่า อินเดียไม่อาจสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในเร็ว ๆ นี้ แต่ตัวเลขผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 6 – 9 เดือนข้างหน้า.-สำนักข่าวไทย