มอสโก/บราซิเลีย 29 เม.ย. – ผู้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของรัสเซีย หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ สปุตนิก-วี ระบุว่าจะฟ้องหน่วยงานควบคุมด้านสุขภาพของบราซิลฐานหมิ่นประมาท
บัญชีผู้ใช้ทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของวัคซีนสปุตนิก-วี กล่าวถึงคำพูดของนายกุสตาโว เมนเดส ผู้จัดการฝ่ายยาชีววัตถุของอันวิซา (Anvisa) หน่วยงานควบคุมด้านสุขภาพของบราซิลที่อ้างว่าผลการทดสอบวัคซีนของสถาบันกามาเลยา ซึ่งเป็นผู้พัฒนาวัคซีนสปุตนิก-วี เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บราซิลไม่อนุมัติให้นำเข้าวัคซีนของรัสเซีย ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า สปุตนิก-วี กำลังดำเนินการทางกฎหมายหมิ่นประมาทกับอันวิซาที่บราซิลในข้อหาเจตนาเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จและไม่ถูกต้อง หลังอันวิซายอมรับว่าไม่ได้เป็นผู้ทดสอบวัคซีนสปุตนิก-วีด้วยตนเอง จึงถือได้ว่าอันวิซากระทำการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยที่ยังไม่ได้ทดสอบวัคซีนสปุตนิก-วี อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ของอันวิซาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาร้ายแรงของสปุตนิก-วี พร้อมทั้งยืนยันว่า เอกสารของสถาบันกามาเลยาระบุว่า วัคซีนสปุตนิก-วีมีระดับความเสี่ยงของอะดีโนไวรัสที่แพร่พันธุ์ได้ ซึ่งสูงกว่าเพดานข้อกำหนดที่บราซิลตั้งไว้ถึง 300 เท่า
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการของอันวิซาได้ปฏิเสธการอนุมัตินำเข้าวัคซีนสปุตนิก-วีตามคำร้องขอของผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ ในบราซิล ขณะที่นายเมนเดสระบุว่า วัคซีนดังกล่าวมีอะดีโนไวรัสที่แพร่พันธุ์ได้ ซึ่งถือเป็นข้อบกพร่องรุนแรง หลักเกณฑ์ด้านสุขภาพทั่วโลกระบุคำเตือนเกี่ยวกับอะดีโนไวรัสที่แพร่พันธุ์ได้ว่า ไวรัสดังกล่าวอาจเพิ่มจำนวนมากขึ้นในร่างกายผู้ป่วยและทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ นายเดนิส โลกูนอฟ ผู้พัฒนาวัคซีนสปุตนิก-วีของสถาบันกามาเลยา กล่าวเมื่อวันอังคารปฏิเสธข่าวที่ว่า อะดีโนไวรัส 2 ตัวที่ใช้ผลิตวัคซีนสปุตนิก-วีเป็นชนิดแพร่พันธุ์ได้.-สำนักข่าวไทย