ชิลี 23 เม.ย. – สัตวแพทย์ในชิลีใช้วัคซีนที่ใช้กับสุนัขมาฉีดกับคน อ้างว่าช่วยป้องกันโควิด-19 ได้ สุดท้ายเรื่องแดง ถูกแฉแถมถูกปรับเงิน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมืองกาลามาของชิลีเปิดเผยว่า พบสัตวแพทย์ของคลินิกรักษาสัตว์สองแห่ง นำวัคซีนสำหรับสุนัขมาฉีดให้มนุษย์หลายสิบคน โดยใช้วัคซีนสุนัข 8 โดสต่อ 1 คน ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว โดยอ้างว่ากำลังศึกษาว่า วัคซีนที่ฉีดในสุนัขสามารถฉีดให้มนุษย์เพื่อป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่ และได้โพสต์ข้อมูลออนไลน์เพื่อจะขายวัคซีนของสุนัขให้กับมนุษย์ ส่วนสัตวแพทย์ในคลินิกอีกแห่งใช้วัคซีนสำหรับสุนัขฉีดให้กับพนักงานของตน เพื่อทดลองว่าจะป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่เช่นกัน
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายสุขภาพและความปลอดภัย ของกระทรวงแรงงาน เข้าตรวจคลินิกแห่งหนึ่ง หลังรับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย เมื่อสอบถามถึงสาเหตุได้คำตอบว่า พวกเขาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว ทั้งที่ขณะนั้นชิลียังไม่มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 เลย จึงได้สืบสวนสอบสวนจนทราบข้อเท็จจริง
มาเรีย เฟอร์นานดา มูนญอซ สัตวแพทย์เจ้าของคลินิกแห่งนี้ ถูกปรับเป็นเงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 310,000 บาท แต่เธอยังยืนยันว่าวัคซีนสุนัขไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อร่างกายเธอเลย ที่ทำไปเพราะต้องการศึกษาว่าวัคซีนของสุนัขช่วยป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่ พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจเลือดของเธอเพื่อหาแอนติบอดี นอกจากนี้ยังระบุว่า พนักงานที่ได้รับวัคซีนสำหรับสุนัขก็ไม่มีใครเจ็บป่วย
ส่วนสัตวแพทย์อีกคลินิกในเมืองเดียวกัน คือ คาร์ลอส เปโดร ถูกปรับเป็นเงิน 9,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 280,000 บาท ฐานโพสต์ข้อความอวดอ้างประโยชน์ของวัคซีนสุนัขที่มีต่อมนุษย์. – สำนักข่าวไทย