fbpx

การค้นหาเรือดำน้ำอินโดนีเซียก้าวเข้าสู่วันที่ 2

จาการ์ตา 22 เม.ย. – ปฏิบัติการค้นหาเรือดำน้ำของอินโดนีเซียที่สูญหายไปพร้อมกับลูกเรือ 53 คน ดำเนินต่อไปเป็นวันที่ 2 ในวันนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบคราบน้ำมันลอยบนผิวน้ำทะเลและประเทศเพื่อนบ้านเสนอให้การช่วยเหลือในการค้นหา


โฆษกกองทัพเรืออินโดนีเซียกล่าวว่า เรือดำนำ เคอาร์ไอ นังกาลา-402 อายุ 44 ปี กำลังฝึกซ้อมการยิงตอร์ปิโดในบริเวณตอนเหนือของเกาะบาหลี เมื่อวันพุธ แต่ไม่ได้แจ้งผลการฝึกซ้อมตามที่กำหนดไว้ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า การค้นหาทางอากาศพบคราบน้ำมันลอยอยู่ใกล้กับจุดที่เรือด้ำน้ำดำลงใต้น้ำทะเล ในขณะเดียวกันเรือของกองทัพเรือ 2 ลำที่มีอุปกรณ์โซนาร์ ที่ใช้ตรวจหาวัตถุใต้น้ำ ถูกส่งมาช่วยเหลือในการค้นหา โฆษกของกองทัพเรือกล่าวว่า เรือดำน้ำที่ใช้เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง สามารถดำน้ำได้ลึก 250-500 เมตร แต่ถ้าลึกกว่านี้ก็ถือว่าเป็นอันตรายมากและอาจถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตได้ กองทัพเรือกล่าวในแถลงการณ์วานนี้ว่า มีความเป็นไปได้ว่าในระหว่างที่เรือดำลงใต้น้ำ เกิดไฟดับ ทำให้เรือสูญเสียการควบคุมและกระบวนการฉุกเฉินในการแก้ปัญหาไม่สามารถทำได้ และเรือจมลงไปที่ระดับความลึก 600-700 เมตร ทะเลบริเวณดังกล่าวถือว่าตื้นกว่าส่วนอื่น ๆ ของอินโดนีเซียแต่ก็มีความลึกได้มากกว่า 1,500 เมตร กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียกล่าวว่า ออสเตรเลีย สิงคโปร์และอินเดีย ตอบรับคำขอความช่วยเหลือของอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เรือดำน้ำขาดการติดต่อไปเมื่อเวลา 4.30 น. เช้าวันพุธและคราบน้ำมันที่พบอาจจะเป็นไปได้ว่า เรือได้รับความเสียหาย หรือ อาจจะเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากลูกเรือก็ได้ เรือ เคอาร์ไอ นังกาลา-402 ขนาด 1,395 ตัน ต่อในเยอรมนีในปี 1977 และเข้าประจำการในกองทัพเรืออินโดนีเซียในปี 1981 เรือเข้ารับการซ้อมบำรุกในเกาหลีใต้นาน 2 ปี ในปี 2012.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.