นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์ระบุ เวียดนามอาจเป็นเหตุแห่งการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งต่อไป

ลอนดอน 29 ธ.ค. – นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์ จาก Capital Economics ซึ่งเป็นสถาบันที่ปรึกษาวิจัยด้านเศรษฐกิจ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า เศรษฐกิจเวียดนามที่เติบโตชะลอตัวลง เป็นสัญญาณชี้ให้เห็นว่า เวียดนามอาจกำลังบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งวิกฤตเศรษฐกิจในอนาคต

ทั้งนี้ เป็นที่คาดกันว่า ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ที่รัฐบาลเวียดนาม จะประกาศในสัปดาห์หน้า น่าจะเติบโตเพียง 6.3% หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็จะถือได้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนาม ชะลอตัวลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 7% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ พ.ศ. 2555 ภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนาม เป็นผลสะท้อนมาจากสถานการณ์ภัยแล้งครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปีที่เวียดนามเคยเผชิญ นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากการใช้นโยบายการเงินแบบหลวมๆ โดยเมื่อดูจากสถิติการปล่อยสินเชื่อภาคเอกชน ตลอดทั้งปีนี้ พบว่า การปล่อยสินเชื่อขยายตัวมากถึงเกือบ 20% กาเรธ เลเธอร์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ของ Capital Economics ระบุว่า การเติบโตเบ่งบานของธุรกิจปล่อยสินเชื่อที่กำลังเกิดขึ้นในเวียดนาม ไม่ส่งผลดีในระยะยาวอย่างแน่นอน ทั้งยังอาจทำให้เวียดนาม ต้องเผชิญปัญหาหนี้เสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายปัจจัย ที่จะยิ่งซ้ำเติมให้สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของเวียดนามเลวร้ายหนักขึ้นอีก เช่น ระบบการธนาคารของเวียดนาม ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากวิกฤตที่เคยประสบในปี 2555 ขณะที่ยอดการส่งออกของเวียดนาม ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ดำดิ่งหดตัวเหลือเพียง 7.5% เมื่อเทียบกับยอดการส่งออกช่วงปี 2543-2559 ที่ขยายตัวสูงราว 12-14%.-สำนักข่าวไทย