วอชิงตัน 30 ธ.ค. – ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐสั่งขับนักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศจำนวน 35 คน เนื่องจากต้องสงสัยว่าจารกรรมความลับของสหรัฐและยังกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหน่วยงานด้านข่าวกรองของรัสเซียอีก 2 แห่งเนื่องจากพัวพันกับการแฮกข้อมูลของกลุ่มการเมืองระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งล่าสุด
ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวในแถลงการณ์ในระหว่างที่เขาเดินทางไปพักผ่อนที่รัฐฮาวายว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ได้มีการเตือนเป็นการภายในและเปิดเผยไปยังรัฐบาลรัสเซีย และมาตรการนี้มีความจำเป็นและเหมาะสมในการตอบโต้ความพยายามที่จะสร้างความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของสหรัฐด้วยวิธีการที่ละเมิดแนวทางปฎิบัติที่เป็นสากล ประธานาธิบดีโอบามา ได้สั่งการให้คว่ำบาตร 2 หน่วยงานด้านความมั่นคงทางทหารของรัสเซีย ซึ่งได้แก่ จีอาร์ยูและเอฟเอสบี หรือเคจีบี ในอดีต นอกจากนั้นยังขับเจ้าหน้าการทูตรัสเซีย 35 คน จากสถานทูตรัสเซียในกรุงวอชิงตันและสถานกงสุลรัสเซียที่นครซานฟรานซิสโก ให้ออกนอกประเทศภายใน 72 ชั่วโมง และยังสั่งปิดสถานที่ 2 แห่งที่เป็นของรัสเซียในนิวยอร์กและแมริแลนด์
ทางด้านรัสเซีย ได้ปฎิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวหารัฐบาลของประธานาธิบดีโอบามาว่า พยายามทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงตกต่ำที่สุดอยู่แล้ว พร้อมกับกล่าวว่า รัสเซียจะดำเนินการตอบโต้ตามความเหมาะสมต่อไป ในขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า ขณะนี้ถึงเวลาที่สหรัฐจะต้องก้าวเดินหน้าต่อไป และเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนอเมริกัน เขาจะพบกับผู้บริหารหน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐในสัปดาห์หน้าเพื่อรับฟังสถานการณ์ข้อเท็จจริงและสถานการณ์ล่าสุด
ประธานาธิบดีโอบามา ตัดสินใจดังกล่าวในขณะที่เหลือเวลาดำรงตำแหน่งอีกไม่กี่วัน และยังทำให้สถานะความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับรัสเซียหลังยุคสงครามเย็นตกต่ำที่สุด ซึ่งป็นผลมาจากนโยบายที่แตกต่างกันในเรื่องปัญหาในซีเรียและยูเครน โดยก่อนหน้านี้ หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐกล่าวหาว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย พัวพันกับความพยายามเข้ามาแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐโดยเข้าไปเจาะระบบข้อมูล หรือ แฮก พรรคเดโมแครต.-สำนักข่าวไทย