หยิบผิด คิดว่าปืนไฟฟ้า ตำรวจอเมริกัน ยิงชายผิวดำดับ

สหรัฐ 13 เม.ย.-ตำรวจหญิงในรัฐมินนิโซตา ยิงผู้ต้องสงสัยชายผิวดำเสียชีวิต โดยไม่ได้ตั้งใจ หลังหยิบปืนผิด คิดว่าเป็นปืนช็อตไฟฟ้า เรื่องนี้เกิดขึ้นขณะมีการพิจารณาคดีฆาตกรรม นายจอร์จ ฟลอยด์ คดีประวัติศาสตร์ที่สร้างกระแสไปทั่วโลก


ภาพเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรัฐมินนิโซตา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บันทึกไว้ด้วยกล้องติดตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่เป็นผู้ยิง ทั้งภาพและเสียงนั้นชัดเจนว่า ตำรวจหยุดรถผู้ต้องสงสัยชายผิวดำอายุ 20 ปี ชื่อ ดูอานต้า ไรท์ แต่เมื่อผู้ต้องสงสัยขัดขืน ตำรวจหญิงคนนี้พยายามจะใช้ปืนช็อตไฟฟ้ายิงเพื่อควบคุมตัว แต่ปรากฏว่า หยิบผิดแล้วใช้ปืนพกยิงเข้าใส่โดยไม่ได้ตั้งใจ

เหตการณ์นี้สร้างความโกรธแค้นให้ผู้คนที่ผู้ออกมารวมตัวประท้วงในพื้นที่ เพื่อถามหาความยุติธรรมให้กับเหยื่อกระสุนของตำรวจที่ทำหน้าที่ผิดพลาด การประท้วงหลายจุดลุกลายเป็นการปล้นสะดมและความวุ่นวายปะทะกับตำรวจ เหตุร้ายล่าสุดนี้เกิดขึ้นในรัฐมินนิโซตา รัฐเดียวกับที่เกิดการฆาตกรรม นายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำ เมื่อกลางปีที่แล้ว โดยตำรวจใช้เข่ากดคอเขาจนเสียชีวิต ซึ่งได้ปลุกกระแสต่อต้านการเหยียดผิวไปทั่วโลก คดีนี้ได้พิจารณาสืบพยานมาประมาณสองสัปดาห์แล้วเพื่อเอาผิด 1 ใน 4 นายตำรวจผู้ก่อเหตุ


ด้านนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดี กล่าวว่าเขาพยายามดูแลให้เกิดความยุติธรรมกับผู้ตาย และขณะนี้หลักฐานค่อนข้างชัดเจน ที่พร้อมให้มีการสืบสวนอย่างรอบด้าน เขาจึงขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ โดยยกคำกล่าวของมารดาผู้ตายที่ขอให้สังคมอยู่ในความสงบและสันติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย