มะนิลา 8 เม.ย. – ฟิลิปปินส์ประกาศระงับใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ในกลุ่มประชาชนอายุต่ำกว่า 60 ปี ชั่วคราว เพื่อตรวจสอบรายงานเกี่ยวกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันของผู้ใช้ในต่างประเทศ
นายโรลันโด เอ็นริเก โดมิงโก ผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของฟิลิปปินส์ ระบุในแถลงการณ์ว่า คำสั่งระงับใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นการชั่วคราว มีขึ้นหลังจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) แนะนำให้ระบุว่า ภาวะลิ่มเลือดอุดตันเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ยากจากการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ขณะนี้ฟิลิปปินส์ยังไม่พบรายงานภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีนดังกล่าวภายในประเทศ ทั้งนี้ คำสั่งระงับใช้วัคซีนไม่ได้หมายความว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกาไม่ปลอดภัยหรือไร้ประสิทธิภาพ แต่ทางการจำเป็นต้องใช้มาตรการป้องกัน เพื่อความปลอดภัยของชาวฟิลิปปินส์ทุกคน
ฟิลิปปินส์ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่เผชิญกับการระบาดรุนแรงในทวีปเอเชีย กำลังเร่งโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ประสบปัญหาล่าช้า เพื่อช่วยลดภาวะตึงตัวของโรงพยาบาล และกระตุ้นสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการระบาด ฟิลิปปินส์ฉีดวัคซีนของซิโนแวคและแอสตราเซเนกาให้แก่ประชาชนเกือบ 923,000 โดสแล้ว จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะฉีดวัคซีนให้ได้ 70 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 108 ล้านคนในปีนี้ ขณะนี้ฟิลิปปินส์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 819,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 14,000 คน ซึ่งเป็นยอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย.-สำนักข่าวไทย