fbpx

“นาจิบ” ได้รับหนังสือเตือนล้มละลายเนื่องจากค้างจ่ายภาษี

กัวลาลัมเปอร์ 7 เม.ย. – นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้รับหนังสือแจ้งเตือนเรื่องการล้มละลายจากการที่เขาไม่ชำระภาษีที่ค้างไว้เป็นเงินมากกว่า 400 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 12,500 ล้านบาท โดยนายนาจิบกล่าวว่า เป็นความพยายามในการทำลายอาชีพทางการเมืองของเขา


นายนาจิบ ซึ่งพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์เมื่อปี 2018 โดนดำเนินคดีหลายสิบคดีทั้งข้อหาเรื่องการทุจริต การฟอกเงินในข้อกล่าวหาที่ว่า เขายักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากกองทุนเพื่อการพัฒนามาเลเซ๊ย หรือ วันมาเลเซียดีวิลอปเมนท์ เบอร์ฮาด หรือ วันเอ็มดีบี ซึ่งเป็นกองทุนของรัฐบาลที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้น นายนาจิบ ปฎิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดและเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เขาเริ่มกระบวนการอุทธรณ์คำตัดสินของศาลให้เขามีความผิดและลงโทษจำคุกเป็นเวลา 12 ปี ในคดีที่เกี่ยวกับวันเอ็มดีบี เมื่อปีที่แล้ว ศาลมาเลเซียสั่งให้นายนาจิบ ดำเนินการชำระภาษี 1,690 ล้านริงกิต หรือ ประมาณ 12,800 ล้านบาท ที่เขาค้างชำระระหว่างปี 2011-2017 ในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นจำนวนที่รวมถึงค่าปรับและดอกเบี้ยด้วย เมื่อวานนี้ นายนาจิบโพสต์ในเฟซบุ๊คของเขาว่า เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการสรรพากร ได้ออกหนังสือเตือนเขาเรื่องล้มละลายจากการที่เขาค้างชำระภาษี ซี่งหนังสือฉบับนี้ออกมาในวันเดียวกับที่เชาไปยื่นอุทธรณ์ในคดีวันเอ็มดีบี นายนาจิบกล่าวว่า เขาเชื่อว่า จังหวะเวลาของการออกหนังสือเตือนนี้ เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของพรรค
พรรคสหมาเลย์แห่งชาติ หรือ อัมโน ของเขาที่จะหยุดร่วมมือกับรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายนาจิบกล่าวว่า หากเขาถูกประกาศให้เป็นบุคคลล้มละลาย เขาก็จะหลุดจากเก้าอี้สมาชิกรัฐสภาและจะไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME