ดีทรอยต์ 6 เม.ย.- รัฐมิชิแกนของสหรัฐกำลังมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นคนแข็งแรงและมีอายุไม่มาก จุดกระแสวิตกว่าจะเป็นสัญญาณของการระบาดในระดับประเทศด้วยหรือไม่
เซลส์แมนวัสดุก่อสร้างวัย 54 ปี เผยว่า รู้สึกไม่สบายจึงยกเลิกนัดฉีดวัคซีนแล้วไปตรวจหาเชื้อ ผลตรวจเป็นบวก ทั้งที่ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมาตลอด รู้สึกเหนื่อยราวกับขึ้นเวทีชกกับไมค์ ไทสัน ทั้งที่เป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว เขาติดเชื้อจากบุตรชายวัย 19 ปี ส่วนภรรยาที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อเช่นกัน แต่มีอาการเพียงเล็กน้อย ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ปัญหาในรัฐมิชิแกนขณะนี้คือ ผู้คนเบื่อการสวมหน้ากากอนามัย ละเลยการรักษาระยะห่าง ขณะที่เชื้อไวรัสที่กำลังระบาดเป็นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้ง่าย มีโอกาสติดเชื้อสูง ดังนั้นกว่าคนจะรู้ตัวก็ติดเชื้อไปแล้ว
รัฐมิชิแกนพบทั้งไวรัสปรับปรุงสายพันธุ์ B.1.351 ที่พบในแอฟริกาใต้เป็นแห่งแรก และ B.1.1.7 ที่พบในอังกฤษเป็นแห่งแรกและแพร่เชื้อได้สูง โดยพบสายพันธุ์หลังนี้กว่า 1,200 ตัวอย่าง เชื่อว่าตัวเลขที่แท้จริงสูงกว่านี้มาก โดยน่าจะมีสัดส่วนร้อยละ 40 ของผู้ป่วยทั้งหมด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเชื่อว่า โรงเรียนและสนามกีฬาเยาวชนน่าจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อ ผู้ป่วยสตรีวัย 44 ปี เชื่อว่า ครอบครัวเธอติดเชื้อจากการที่สามีไปเชียร์ลูกชายแข่งฟุตบอล เพราะแม้ว่าทุกคนใส่หน้ากากอนามัย แต่ก็ตะโกนเชียร์กันสุดเสียง แล้วก็นำเชื้อกลับมาติดคนที่บ้าน สามีอาการหนักแต่ไม่ได้เข้าโรงพยาบาล ส่วนเธอต้องเข้าเพราะมีอาการปอดอักเสบทั้งที่เป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ขณะที่บุตรชายวัย 7 ขวบและ 9 ขวบ ไม่มีอาการใด ๆ สำนักงานสาธารณสุขมิชิแกนแจ้งว่า มีผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วร้อยละ 35.2 และฉีดครบสองเข็มแล้วร้อยละ 21.5.-สำนักข่าวไทย