สำนักพระราชวังอังกฤษออกแถลงการณ์ กรณี “เจ้าชายแฮร์รี-เมแกน”

อังกฤษ 10 มี.ค. – สำนักพระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์สั้นๆ ด้วยเนื้อความเพียง 61 คำ ต่อกรณีการให้สัมภาษณ์ของเจ้าชายแฮร์รี กับเมแกน ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ของโอปราห์ วินฟรีย์ ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ยังไม่ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้


สำนักพระราชวังบักกิงแฮม ออกแถลงการณ์ว่า ราชวงศ์อังกฤษรู้สึกเสียพระทัยที่ได้รับรู้ถึงปัญหาต่างๆ ที่เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน พระชายา ทรงต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเหยียดผิวพระโอรสของเจ้าชายแฮร์รี และการที่เมแกนไม่ได้รับความช่วยเหลือจากราชวงศ์ในขณะที่มีปัญหาทางด้านจิตใจอย่างรุนแรง พระราชวงศ์จะทรงแก้ปัญหาเรื่องการเหยียดผิวอย่างรอบคอบ และจะดำเนินการเรื่องนี้เป็นการส่วนพระองค์ นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า ทั้งเจ้าชายแฮร์รี เมแกน และอาร์ชี่ จะทรงเป็นสมาชิกราชวงศ์ที่รักยิ่งตลอดไป

ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระบิดาของเจ้าชายแฮร์รี ซึ่งทรงปรากฏพระองค์ในการเสด็จไปเยี่ยมชมศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในกรุงลอนดอน เมื่อวานนี้ ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมาก ทรงไม่แสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการประทานสัมภาษณ์ดังกล่าวของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ซึ่งมีการตัดพ้อถึงพระองค์ด้วย


อีกด้านหนึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญอังกฤษกล่าวถึงประเด็นที่อาร์ชี่ พระโอรสของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ไม่ได้รับพระราชทานคำนำหน้าชื่อเป็นเจ้าชายว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องทางกฎหมายและเชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องสีผิวของใครอย่างแน่นอน เรื่องการพระราชทานคำนำหน้าว่าเจ้าชายหรือเจ้าหญิง มีการบัญญัติเอาไว้ตั้งแต่สมัยพระเจ้าจอร์จที่ 5 เมื่อปี 2460 ที่กำหนดเอาไว้ว่าเฉพาะพระโอรสของพระโอรสองค์โตที่ยังทรงมีพระชนม์ชีพของเจ้าชายแห่งเวลส์เท่านั้น ซึ่งก็คือพระโอรสของเจ้าชายวิลเลียม ที่จะได้รับพระทานคำนำหน้าพระนามว่าเจ้าชาย เพื่อไม่ให้มีเจ้าชายและเจ้าหญิงจำนวนมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ แต่ต่อมาสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งทรงมีพระราชอำนาจในการแก้ไขกฎเกณฑ์ดังกล่าว ได้ทรงบัญญัติใหม่เมื่อปี 2555 ว่าพระโอรสและพระธิดาทุกพระองค์ของเจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงแคทเธอรีน จะได้รับคำนำหน้าพระนามว่า เจ้าชายและเจ้าหญิง โดยไม่ได้จำกัดเฉพาะพระโอรสหรือพระธิดาองค์โตเหมือนแต่ก่อน

ด้านสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐ เผยว่าทั่วโลกมีผู้ชมรายการให้สัมภาษณ์พิเศษครั้งนี้มากกว่า 49.1 ล้านคน ในจำนวนนี้มีทั้งการชมทางโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ช่องทางต่างๆ ขณะที่จำนวนผู้ชมผ่านสื่อออนไลน์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ชมในสหรัฐนั้นมีจำนวนถึง 17.8 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่งานประกาศรางวัลออสการ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ซีบีเอสระบุด้วยว่าจะนำเอาเทปรายการดังกล่าวมาออกอากาศในสหรัฐอีกครั้งในวันศุกร์นี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร