เผยปีนี้ทั่วโลกมีนักข่าวเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ 57 คน

ปารีส 19 ธ.ค. – องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (อาร์เอสเอฟ) เปิดเผยวันนี้ว่า ในปีนี้ทั่วโลกมีจำนวนผู้สื่อข่าวที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่อย่างน้อย 57 คน โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งและสื่อไม่ได้รับการคุ้มครอง


อาร์เอสเอฟระบุว่า ผู้สื่อข่าวที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สื่อข่าวท้องถิ่น โดยมี 19 คนถูกสังหารในซีเรีย 10 คนในอัฟกานิสถาน 9 คนในเม็กซิโก และ 5 คนในอิรัก ตัวเลขผู้สื่อข่าวเสียชีวิตในปีนี้ลดลงจากปีที่แล้วที่มีรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 67 คน สาเหตุที่มีจำนวนผู้สื่อข่าวเสียชีวิตลดลงเกิดจากผู้สื่อข่าวถอนตัวออกจากการรายงานข่าวในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งและมีการจำกัดเสรีภาพสื่อ ยกตัวอย่างเช่น ในเม็กซิโกที่บรรดาผู้สื่อข่าวต้องเซ็นเซอร์การนำเสนอข่าวของตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น หรืออย่างในอัฟกานิสถานที่ผู้สื่อข่าว 10 คนเสียชีวิตจากการตกเป็นเป้าหมายการโจมตีเพียงเพราะมีอาชีพเป็นผู้สื่อข่าว เช่นเดียวกันผู้สื่อข่าว 5 คนต้องสังเวยชีวิตในเยเมนที่อยู่ในภาวะสงครามระหว่างกองกำลังที่สนับสนุนโดยซาอุดีอาระเบียและกลุ่มกบฏฮูธี

เลขาธิการอาร์เอสเอฟเห็นว่า สถานการณ์ความรุนแรงต่อผู้สื่อข่าวเลวร้ายลง นับเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความล้มเหลวในการให้การคุ้มกันผู้ประกอบอาชีพสื่อสารมวลชน ดังนั้นทางกลุ่มจึงขอเรียกร้องไปยังนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติคนใหม่ให้แต่งตั้งผู้แทนพิเศษขึ้นมาเพื่อให้การคุ้มครองบรรดาผู้สื่อข่าวเป็นการเฉพาะ.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก