เมลเบิร์น 15 ก.พ. – ออสเตรเลียเผยว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจว่ามาตรการล็อกดาวน์นครเมลเบิร์นที่เป็นเมืองเอกของรัฐวิกตอเรียเป็นเวลา 5 วันจะสิ้นสุดลงในช่วงเย็นวันพุธนี้หรือไม่ ขณะที่ทางการยืนยันว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้างในสัปดาห์หน้า
ทางการรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลียรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพียง 1 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อจากการระบาดเป็นกลุ่มก้อนล่าสุดในโรงแรมกักตัวที่นครเมลเบิร์นเพิ่มเป็น 17 คน โดยที่ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่คนดังกล่าวมีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวกเมื่อวานนี้ มาตรการล็อกดาวน์ของรัฐวิกตอเรียทำให้ประชาชนกว่า 6 ล้านคนต้องเก็บตัวอยู่ในบ้าน และออกนอกบ้านได้เฉพาะในกรณีที่ต้องไปซื้อของใช้จำเป็น ทำงาน ดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ และออกกำลังกายเท่านั้น ขณะที่การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมรายการออสเตรเลียน โอเพ่น ซึ่งจัดขึ้นที่นครเมลเบิร์นและจะเสร็จสิ้นในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ห้ามไม่ให้มีผู้เข้าชมจนกว่าจะสิ้นสุดมาตรการล็อกดาวน์
นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า แม้ตอนนี้สถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ในนครเมลเบิร์นจะดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า การใช้มาตรการล็อกดาวน์จะสิ้นสุดตามกำหนดในช่วงเย็นวันพุธนี้ ขณะที่นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียเผยว่า ทางการจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทคให้แก่ชาวออสเตรเลียในช่วงปลายเดือนนี้ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 28,900 คน และผู้เสียชีวิต 909 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว. -สำนักข่าวไทย