ออสเตรเลียเล็งเปิดทราเวลบับเบิลกับนิวซีแลนด์

FILE PHOTO: A public health warning message is posted amidst the tightening of regulations to curb the spread of the coronavirus disease (COVID-19) in Sydney, Australia, December 30, 2020. REUTERS/Loren Elliott

เมลเบิร์น 29 ม.ค.- ออสเตรเลียอาจจะฟื้นทราเวลบับเบิลหรือข้อตกลงจับคู่ท่องเที่ยวระหว่างประเทศกับนิวซีแลนด์ในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่รัฐวิกตอเรียเริ่มผ่อนคลายการเข้มงวดพรมแดนก่อนเป็นเจ้าภาพออสเตรเลียโอเพน ซึ่งเป็นแกรนด์สแลมรายการแรกของปีนี้


นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลียบอกสื่อวันนี้ว่า การไม่พบผู้ติดเชื้อในชุมชนวันนี้เป็นหลักฐานบ่งชี้ว่านิวซีแลนด์สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่น่ากังวลได้แล้ว จึงสมควรที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะนำเรื่องทราเวลบับเบิลข้ามทะเลแทสมันที่ระงับไปกลับมาทบทวนอีกครั้ง ทราเวลบับเบิลดังกล่าวอนุญาตให้ผู้อาศัยในนิวซีแลนด์เดินทางเข้าออสเตรเลียโดยไม่ต้องกักโรค แต่ถูกระงับไปหลังจากนิวซีแลนด์ยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้ป่วยรายแรกในรอบหลายเดือนติดเชื้อปรับปรุงสายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้ ดังนั้นหากสถานการณ์ในนิวซีแลนด์ยังคงออกมาดีเยี่ยมต่อไป เทียบเท่ากับภาพรวมการควบคุมการระบาดที่ผ่านมา ก็หวังว่าสองประเทศจะเริ่มการเดินทางได้อีกครั้งในเร็ววัน

นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย

นิวซีแลนด์และออสเตรเลียติด 10 อันดับแรกที่ควบคุมโรคโควิด-19 ได้ดีที่สุดจากการจัดอันดับเกือบ 100 ประเทศ เปิดทางให้รัฐวิกตอเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียสามารถจัดการแข่งขันออสเตรเลียนโอเพนตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ล่าช้าจากกำหนดเดิมสามสัปดาห์ โดยได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางกับผู้มาจากนครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ที่อยู่ถัดขึ้นไปด้านบน ขณะที่นักเทนนิสชั้นนำระกับโลกเริ่มกักตัวครบ 14 วันแล้วตามโรงแรมในนครเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐวิกตอเรียและเมืองแอดิเลด เมืองเอกของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ทางตอนกลางค่อนไปทางใต้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย