มะนิลา 28 ม.ค. – ฟิลิปปินส์ประกาศอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว เป็นประเทศที่สองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าว
นายโรลันโด เอ็นริเก โดมิงโก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือเอฟดีเอของฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ว่า ขณะนี้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกามีประโยชน์ที่รับรู้กันอย่างแพร่หลายมากกว่าความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ทั้งยังระบุว่า วัคซีนของแอสตราเซนเนกาสะดวกต่อการขนส่งและการจัดเก็บ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ในระดับอุณหภูมิที่ต่ำมาก และยังมีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 ได้ดี ก่อนหน้านี้ เอฟดีเอของฟิลิปปินส์ได้อนุมัติใช้วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคไปแล้ว ขณะที่วัคซีนขนานอื่น ๆ เช่น สปุตนิก-วีของสถาบันกามาเลยาของรัสเซีย ซิโนแวกของซิโนแวกไบโอเทคของจีน และโควาซินของภารตะไบโอเทคของอินเดียกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติ
ฟิลิปปินส์ได้ลงนามในข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากแอสตราเซนเนกาจำนวน 17 ล้านโดส ครอบคลุมถึงข้อตกลงภาคเอกชนที่สั่งซื้อเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน 2.6 ล้านโดส ที่ปรึกษาด้านธุรกิจของรัฐบาลฟิลิปปินส์คาดว่า การจัดส่งวัคซีนล็อตแรกในเดือนพฤษภาคมนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการผลิตที่แอสตราเซนเนกากำลังเผชิญอยู่ ขณะนี้ ฟิลิปปินส์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 518,000 คน และผู้เสียชีวิตเกือบ 10,500 คน ซึ่งเป็นสถิติผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่สูงเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย. -สำนักข่าวไทย