สหรัฐ 20 ม.ค. – วันนี้ เวลาเที่ยงคืนตามเวลาไทย นายโจ ไบเดน จะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐ แต่ด้วยวิกฤติหลายด้านที่รุมเร้าจะเป็นพิธีที่แตกต่างจากครั้งก่อนๆ
พิธีนี้เป็นการเริ่มต้นรัฐบาลใหม่ที่จะสืบทอดวิกฤติการเมืองจากรัฐบาลเก่าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างไว้ โดยปกติประธานาธิบดีที่กำลังลงจากตำแหน่งจะร่วมพิธีสาบานตนด้วย แต่นายทรัมป์ที่ยังไม่ยอมรับว่าแพ้เลือกตั้งให้กับนายไบเดนแล้วยืนกรานว่าเขาถูกโกงเลือกตั้ง ทำให้มีผู้ก่อจลาจลที่รัฐสภา จะไม่เข้าร่วมพิธีด้วย และจะไม่ต้อนรับนายไบเดนเข้าทำเนียบขาวตามธรรมเนียมปฏิบัติ เขาได้เตรียมเดินทางออกจากทำเนียบขาวในช่วงเช้า ไปยังที่พักส่วนตัวในรัฐฟลอริดา ก่อนที่พิธีสาบานตนจะเริ่ม
อีกจุดที่จะแตกต่างไปคือ จำนวนผู้เข้าร่วมพิธี เนื่องจากความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุรุนแรงจากกลุ่มหัวรุนแรงที่นิยมนายทรัมป์ เหมือนกับจลาจลที่อาคารรัฐสภา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 5 คน เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้ทางการต้องปิดสถานที่สำคัญในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พิธีครั้งนี้จึงไม่อนุญาตให้สาธารณชนเข้าร่วม จากปกติที่ผ่านมาจะมีผู้เข้าร่วมสูงสุดถึงกว่า 200,000 คน ในบริเวณที่จัดพิธีจึงได้นำธงมาประดับเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนผู้ร่วมพิธี
สิ่งที่แตกต่างไปจากครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัดคือ การรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้นมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะความเสี่ยงที่จะมีกลุ่มติดอาวุธก่อการร้าย หวังที่จะขัดขวางนายไบเดนไม่ให้เข้ารับตำแหน่งตามที่พวกเขาหลงเชื่อว่าเกิดการโกงเลือกตั้ง ทำให้ทางการนำทหารกว่า 25,000 นาย ไปประจำการทั่วกรุง เพื่อระวังภัย มีการนำทหารส่วนหนึ่งเข้าไปในอาคารัฐสภาเป็นครั้งแรกตั้งแต่ยุคสงครามกลางเมืองเมื่อกว่า 150 ปี สิ่งที่น่าตกใจคือ มีทหารกว่า 10 คน ถูกสั่งให้ยุติการทำหน้าที่ครั้งนี้ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุจลาจลที่รัฐสภาด้วย
ด้วยเหตุนี้หัวข้อหลักของพิธีสาบานตนวันนี้จึงต่างไปจากครั้งก่อนๆ ซึ่งมักเป็นการเฉลิมฉลอง แต่ครั้งนี้กำหนดในหัวข้อว่าอเมริกาเป็นปึกแผ่น เพื่อมุ่งเยียวยาความแตกร้าว สร้างความสามัคคีในชาติ
สำหรับนายทรัมป์นั้น ใช้เวลาก่อนหมดวาระสร้างเรื่องอื้อฉาวอีกครั้ง ด้วยการประกาศกลางดึกอภัยโทษและลดโทษอาญาให้กับบุคคลต่างๆ กว่า 100 คน การอภัยโทษเป็นอำนาจของประธานาธิบดีที่สามารถทำได้ แต่บุคคลที่นายทรัมป์อภัยโทษส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ใกล้ชิดหรือพันธมิตรทางการเมืองของเขา โดยเฉพาะนายสตีฟ แบนนอน ผู้นำเครือข่ายอนุรักษ์นิยมเหยียดผิว ซึ่งมีบทบาทสำคัญให้การกำหนดนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนของนายทรัมป์ ทำให้นายแบนนอนพ้นจากความผิดอาญา ฐานทุจริตเงินบริจาคเพื่อก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนกับเม็กซิโก ซึ่งเป็นนโยบายหนึ่งที่อื้อฉาวที่สุด นอกจากนั้นสื่อสหรัฐได้รายงานว่ามีผู้ที่จ่ายเงินผ่านผู้ใกล้ชิดนายทรัมป์ เพื่อให้ได้รับการอภัยโทษ.-สำนักข่าวไทย