ออสโล 17 ม.ค.- นอร์เวย์แสดงความกังวลมากขึ้นต่อความปลอดภัยของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวร้ายแรง หลังจากมีผู้สูงอายุเสียชีวิตหลังรับวัคซีนแล้ว 29 ราย
สถาบันสุขภาพนอร์เวย์มีคำชี้ขาดว่า สำหรับผู้มีสุขภาพอ่อนแอที่สุด แม้มีอาการข้างเคียงปานกลางจากการฉีดวัคซีนก็อาจเกิดผลร้ายแรงติดตามมาได้ ดังนั้นวัคซีนอาจมีประโยชน์น้อยมากหรือไม่มีเลยสำหรับผู้เหลืออายุขัยไม่มากนัก นอร์เวย์ได้ปรับเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตหลังรับวัคซีนจาก 23 คนเป็น 29 คน และลดกลุ่มอายุผู้เสียชีวิตจาก 80 ปีเป็น 75 ปี ยังไม่ทราบชัดเจนว่าการเสียชีวิตเกิดขึ้นเมื่อใด แต่ได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนแล้วอย่างน้อย 42,000 คน เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่สุดหากติดเชื้อไวรัส รวมถึงผู้สูงอายุ
สำนักงานการแพทย์นอร์เวย์ตอบข้อถามสำนักข่าวบลูมเบิร์กวานนี้ว่า วัคซีนที่นอร์เวย์ฉีดไปแล้วจนถึงเมื่อวันศุกร์เป็นของไฟเซอร์/ไบออนเทคเท่านั้น การเสียชีวิตทั้งหมดจึงเกี่ยวข้องกับวัคซีนนี้ ประเมินผู้เสียชีวิตแล้ว 13 คน และอีก 16 คนอยู่ระหว่างการประเมิน ผู้เสียชีวิตทั้ง 29 คนเป็นผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวร้ายแรงอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้อาเจียน เป็นไข้ ตั้งแต่อยู่ในจุดที่รับวัคซีน และทำให้โรคประจำตัวทรุดหนักลง ด้านไฟเซอร์แถลงทางอีเมลว่า กำลังประสานกับทางการนอร์เวย์เพื่อตรวจสอบการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น ยอดผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้ไม่ถือว่าน่าตกใจ และเป็นไปตามการคาดหมาย
ขณะเดียวกันนายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลียแถลงข่าววันนี้ว่า ออสเตรเลียสั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค 10 ล้านโดส กำลังขอข้อมูลเพิ่มเติมจากบริษัทผู้ผลิต เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และรัฐบาลนอร์เวย์ ก่อนหน้านี้สหรัฐแจ้งว่า มีผู้เกิดอาการแพ้รุนแรง 21 รายในช่วงที่ทางการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค 1.9 ล้านโดสระหว่างวันที่ 14-23 ธันวาคม ส่วนสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) จะออกรายงานความปลอดภัยของวัคซีนขนานนี้ในสิ้นเดือนนี้ อียูอนุมัติให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค และของโมเดอร์นา แม้ว่ามีอาสาสมัครอายุ 80-90 ปีร่วมทดสอบวัคซีนด้วย แต่อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 50 ปีเศษเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย