ชาวอเมริกันอดสวัสดิการว่างงานฉุกเฉิน

วอชิงตัน 27 ธ.ค.- ชาวอเมริกันหลายล้านคนจะไม่ได้รับสวัสดิการว่างงานฉุกเฉินที่จะสิ้นสุดลงในวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ลงนามร่างกฎหมายบรรเทาผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และงบประมาณรายจ่าย


ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ลงนามร่างกฎหมาย 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 69 ล้านล้านบาท) ที่ประกอบด้วยเงินบรรเทาผลกระทบโควิด 892,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26.76 ล้านล้านบาท) ที่ครอบคลุมถึงการขยายสวัสดิการว่างงานฉุกเฉินที่จะหมดอายุในวันที่ 26 ธันวาคมตามเวลาสหรัฐ และงบประมาณรายจ่ายรัฐบาลตามปกติ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 42 ล้านล้านบาท) ข้อมูลของกระทรวงแรงงานระบุว่า จะมีชาวอเมริกันว่างงาน 14 ล้านคนไม่ได้รับสวัสดิการว่างงานฉุกเฉิน ขณะที่การปิดที่ทำการรัฐบาลหรือชัตดาวน์บางส่วนจะเริ่มในวันที่ 29 ธันวาคมตามเวลาสหรัฐ เสี่ยงกระทบต่อรายได้ของลูกจ้างของรัฐบาล

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตว่า ที่ไม่ลงนามเพราะต้องการให้ประชาชนได้รับเงินช่วยเหลือจากร่างนี้คนละ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 60,000 บาท) ไม่ใช่ 600 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 18,000 บาท) เท่านั้น ด้านโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 แถลงเรียกร้องให้ทรัมป์รีบลงนามทันที การละทิ้งความรับผิดชอบเช่นนี้ก่อผลร้ายแรงติดตามมา เขาจะหารือกับคณะที่ปรึกษาช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลในวันนี้


สมาชิกสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตตกลงร่างกฎหมายมูลค่ามหาศาลนี้ได้เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากโต้เถียงกันมาหลายเดือน และผ่านความเห็นชอบจากทั้งสองสภาไปเมื่อวันจันทร์ การที่ทรัมป์ไม่ลงนามทำให้สมาชิกสภาเตรียมกลับมาประชุมอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ทั้งที่ปกติแล้วจะเลื่อนการประชุมในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม สภาผู้แทนราษฎรที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากจะลงมติร่างกฎหมายสั่งจ่ายเช็คให้ประชาชนครั้งเดียวคนละ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 60,000 บาท) ส่วนร่างกฎหมายกลาโหมมูลค่า 740,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 22.2 ล้านล้านบาท) ที่ทรัมป์ใช้สิทธิวีโต้ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน สภาผู้แทนจะลงมติลบล้างในวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ หากผ่านก็จะเปิดทางให้วุฒิสภาลงมติลบล้างได้ในวันอังคาร ทั้งสองสภาต้องการเพียงเสียงข้างมากสองในสามก็สามารถลบล้างสิทธิวีโต้ของประธานาธิบดีได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”