ซิดนีย์ 24 ธ.ค. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียเรียกร้องให้ประชาชนงดเดินทางในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขณะที่หลายครอบครัวต้องใช้ชีวิตภายใต้มาตรการล็อกดาวน์และคำสั่งจำกัดการรวมตัวได้ไม่เกิน 10 คนในที่พักอาศัย
นางแกลดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลียและมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอกกล่าวว่า ทางการขอให้ประชาชนงดการเดินทางในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ยกเว้นว่าจะมีเหตุจำเป็นจริง ๆ แต่ยังคงอนุญาตให้ครอบครัวพบปะรวมตัวกันได้ในช่วงดังกล่าว ทางการจะตัดสินใจว่าจะขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ หรือไม่ในวันที่ 26 ธันวาคม ขณะที่ทางการรัฐวิกตอเรียที่มีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอกเตือนประชาชนให้เลี่ยงทักทายด้วยการกอดหรือจูบผู้ที่เดินทางมาจากนครซิดนีย์ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน ประชาชนกว่า 250,000 คนในเมืองย่านชายหาดทางตอนเหนือของนครซิดนีย์ที่มีประชากรราว 1 ล้านคนยังคงใช้ชีวิตอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ในวันคริสต์มาสอีฟหลังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคโควิด-19 ในสัปดาห์ที่แล้ว ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานวันนี้ว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 9 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่มี 8 คน ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าการใช้มาตรการล็อกดาวน์และเว้นระยะห่างทางสังคมสามารถควบคุมการระบาดกลุ่มก้อนดังกล่าวได้แล้ว ขณะนี้ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 28,000 คน และผู้เสียชีวิต 908 คน. -สำนักข่าวไทย