เดนมาร์กเตรียมขุดซากมิงค์ติดเชื้อโควิดไปเผา

โคเปนเฮเกน 21 ธ.ค. – รัฐบาลเดนมาร์กเตรียมขุดซากตัวมิงค์ราว 4 ล้านตัวขึ้นมาจากหลุมฝังขนาดใหญ่และนำไปเผาหลังเกิดข้อถกเถียงเรื่องความเสี่ยงที่เชื้อไวรัสโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จะปนเปื้อนในแหล่งน้ำ


กระทรวงอาหารและเกษตรของเดนมาร์กระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาเรื่องขุดซากตัวมิงค์ขึ้นมาจากหลุมฝังในปีหน้า และเมื่อซากมิงค์ไม่มีเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ปนเปื้อนแล้ว ทางการจะขนย้ายไปกำจัดด้วยการใช้เตาเผา ซึ่งคล้ายกับการกำจัดขยะจากธุรกิจการค้าทั่วไป โดยคาดว่าจะกำจัดซากมิงค์ด้วยวิธีดังกล่าวได้ในเดือนพฤษภาคมปีหน้า เพราะการปนเปื้อนของเชื้อไวรัสโคโรนาในซากมิงค์น่าจะหมดไปแล้ว

ทางการเดนมาร์กได้ประกาศสั่งฆ่าตัวมิงค์กว่า 15 ล้านตัวทั่วประเทศ กระทบต่ออุตสาหกรรมผลิตขนมิงค์ที่ใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรปหรืออียู ก๊าซไนโตรเจนและฟอสฟอรัสจากซากเน่าเปื่อยได้ดันซากมิงค์บางส่วนขึ้นมาจากหลุมฝังขนาดใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่กองทัพ ขณะนี้หลุมฝังซากมิงค์ 2 แห่งกำลังเป็นปัญหาถกเถียง เนื่องจากหลุมฝังแห่งหนึ่งตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบที่ใช้สำหรับอาบ ขณะที่หลุมฝังอีกแห่งตั้งใกล้กับแหล่งน้ำดื่ม ทำให้ชาวเมืองไม่พอใจกับการกระทำของรัฐบาลที่อาจทำให้แหล่งน้ำเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา


เมื่อต้นเดือนที่แล้ว ทางการเดนมาร์กประกาศสั่งฆ่ามิงค์ทุกตัวในประเทศ หลังพบการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนาในฟาร์มมิงค์ ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า การกลายพันธุ์ดังกล่าวอาจทำลายประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในอนาคต ขณะนี้เดนมาร์กมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 134,434 คน และผู้เสียชีวิต 1,035 คน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.