ซิดนีย์ 10 ธ.ค. – ออสเตรเลียเล็งกระตุ้นยอดส่งออกฝ้ายไปยังตลาดอื่นมากขึ้น หลังจีนสั่งห้ามโรงงานนำเข้าฝ้ายจากออสเตรเลีย ขณะที่จีนจะใช้มาตรการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตอบโต้เป็นการชั่วคราวกับไวน์นำเข้าที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลออสเตรเลีย
เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทางการจีนสั่งห้ามโรงงานผลิตฝ้ายนำเข้าฝ้ายจากออสเตรเลีย ซึ่งมีมูลค่าราว 900 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 20,260 ล้านบาท) ท่ามกลางความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่ทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมส่งออกฝ้ายของออสเตรเลียเผยว่า ปกติแล้วจีนนำเข้าฝ้ายถึงร้อยละ 60 ของที่ออสเตรเลียส่งออกทั้งหมด ความสัมพันธ์ที่ถดถอยของทั้งสองประเทศทำให้ออสเตรเลียต้องกระตุ้นการส่งออกฝ้ายไปยังเวียดนาม ไทย และประเทศอื่น ๆ ในทวีปเอเชียแทนจีน นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักตามแนวชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมาทำให้ออสเตรเลียผลิตฝ้ายได้สูงถึง 506,000 ตัน ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561 และทำให้ผู้ส่งออกฝ้ายของออสเตรเลียต้องหาตลาดทางเลือกใหม่นอกเหนือไปจากจีน
ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์จีนประกาศวันนี้ว่า จะใช้มาตรการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตอบโต้เป็นการชั่วคราวกับไวน์นำเข้าที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลออสเตรเลียตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งส่งผลให้ผู้นำเข้าไวน์ออสเตรเลียที่อยู่ระหว่างถูกสอบสวนเรื่องรับการอุดหนุนจะต้องวางเงินมัดจำให้ศุลกากรจีน ผู้บริหารสมาคมผู้ปลูกองุ่นและผู้ค้าไวน์ของออสเตรเลียกล่าวว่า ผู้ผลิตไวน์ได้ตัดสินใจปรับแผนการส่งออกไวน์ไปยังตลาดอื่นแทน หลังจากจีนเริ่มเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้การทุ่มตลาดเมื่อเดือนก่อนในอัตราร้อยละ 107.1-212.2
ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับจีนเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2561 เมื่อออสเตรเลียเป็นประเทศแรกในโลกที่สั่งห้ามบริษัทหัวเว่ยของจีนให้บริการเครือข่าย 5G และยิ่งทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้นหลังจากออสเตรเลียเรียกร้องให้มีการสอบสวนเพื่อหาต้นเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19. -สำนักข่าวไทย