ลอนดอน 7 ธ.ค.- สหราชอาณาจักรหรือยูเค (UK) และสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) พยายามหาทางลดความเห็นต่างเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนที่ยูเคจะต้องออกจากอียูหรือเบร็กซิตภายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้
อังกฤษออกจากอียูอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 มกราคม และมีเวลา 1 ปีในการเปลี่ยนผ่าน การเจรจาเริ่มขึ้นอีกครั้งที่กรุงบรัสเซลส์ ที่ทำการของอียู ก่อนที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษและนางออร์ซูลา ฟัน แดร์ ไลเอน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปจะทบทวนสถานการณ์ในเย็นวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลายฝ่ายวิตกว่า หากเบร็กซิตโดยไร้ข้อตกลงการค้าจะเกิดความโกลาหลขึ้น นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์มองว่า มีโอกาสครึ่ง ๆ ที่จะได้ข้อตกลง ขณะที่เจพีมอร์แกน วาณิชธนกิจสหรัฐมองว่า โอกาสที่จะเบร็กซิตแบบไร้ข้อตกลงการค้าเพิ่มขึ้นจาก 1 ใน 5 เป็น 1 ใน 3
นายมีเชล บาร์นีเยร์ หัวหน้าคณะเจรจาของอียูกล่าวกับนักการทูตสมาชิกอียูว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษคือผู้ที่จะต้องตัดสินใจในที่สุด ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงเห็นต่างในทั้งสามประเด็นหลักประกอบด้วย สิทธิการทำประมงในน่านน้ำอังกฤษ การรับประกันการแข่งขันอย่างเป็นธรรมให้แก่ธุรกิจ และการแก้ไขข้อพิพาทในอนาคต นักการทูตในกรุงบรัสเซลส์เผยว่า อังกฤษไม่ยอมประนีประนอมเรื่องสิทธิการทำประมงและการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่งจะเปิดทางให้เกิดข้อตกลงการค้าสองฝ่ายที่มูลค่าปีละเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 30 ล้านล้านบาท) ขณะที่ ส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีจอห์นสันกล่าวว่า ฝรั่งเศสต้องยอมถอยเรื่องสิทธิการทำประมงและอียูต้องหยุดเรียกร้องเรื่องการแข่งขันอย่างเป็นธรรม.-สำนักข่าวไทย