วอชิงตัน 3 ธ.ค.- รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐขยายการกดดันทางเศรษฐกิจต่อเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกของจีนด้วยการห้ามนำเข้าฝ้ายจากองค์กรกึ่งทหารจีน โดยอ้างว่าบังคับใช้แรงงานชาวมุสลิมอุยกูร์ที่ถูกคุมขัง
สำนักงานศุลกากรและปกป้องพรมแดนสหรัฐหรือซีบีพี (CBP) มีคำสั่งระงับการนำเข้าชั่วคราว (Withhold Release Order) ฝ้ายและผลิตภัณฑ์ฝ้ายผลิตจากบรรษัทผลิตและก่อสร้างซินเจียงหรือเอ็กพีซีซี (XPCC) หนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ของจีน ส่งผลให้บริษัทเสื้อผ้าและบริษัทที่นำเข้าผลิตภัณฑ์ฝ้ายเข้าสหรัฐต้องยกเลิกใยฝ้ายที่ผลิตจากบรรษัทดังกล่าวออกจากห่วงโซ่อุปทาน ซีบีพีมีอำนาจระงับการนำเข้าสินค้าหากต้องสงสัยว่าใช้แรงงานเด็ก แรงงานที่มาจากการบังคับ และการค้ามนุษย์ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายนซีบีพีได้พิจารณาเรื่องห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ฝ้ายและมะเขือเทศทั้งหมดจากซินเจียง แต่มีเสียงค้านจากคนในรัฐบาลจึงประกาศห้ามอย่างเจาะจงกับบริษัทจีนขนาดเล็กสองแห่ง
นายเคนเนธ คูชิเนลอี เจ้าหน้าที่อาวุโสปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีช่วยกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ ซึ่งดูแลซีบีพียืนยันว่า ยังคงพิจารณาเรื่องห้ามนำเข้าฝ้ายจากซินเจียงทั้งหมดอยู่ สินค้าตีตรา”ผลิตในจีน” เป็นตราที่เตือนว่า ผลิตภัณฑ์ฝ้ายที่ซื้อเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลส่งความสุขปลายปี หากผลิตจากจีนอาจมาจากแรงงานทาส ด้านกลุ่มผู้ผลิตเสื้อผ้าในสหรัฐเคยวิจารณ์คำสั่งห้ามนำเข้าฝ้ายจากซินเจียงทั้งหมดว่าเป็นไปไม่ได้ แถลงสนับสนุนที่ซีบีพีห้ามนำเข้าจากเอ็กซ์พีซีซีเป็นการเจาะจง เอ็กซ์พีซีซีก่อตั้งขึ้นในปี 2497 กระทรวงคลังสหรัฐมีคำสั่งในเดือนกรกฎาคมห้ามบริษัทต่าง ๆ ทำธุรกรรมในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐทั้งหมดกับบริษัทนี้
สหประชาชาติอ้างรายงานหลายฉบับว่า จีนบังคับใช้แรงงานชาวมุสลิมอุยกูร์ที่ถูกควบคุมตัวในค่ายกักกันราว 1 ล้านคน จีนปฏิเสธเรื่องปฏิบัติไม่ดีต่อคนเหล่านี้ และยืนยันว่าไม่ใช่ศูนย์กักกัน แต่เป็นศูนย์ฝึกอาชีพเพื่อแก้ปัญหากลุ่มสุดโต่ง.- สำนักข่าวไทย