ลอนดอน 30 พ.ย.- ผลสำรวจขนาดใหญ่พบว่า การแพร่เชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในอังกฤษลดลงร้อยละ 30 ในช่วงที่ใช้มาตรการปิดเมืองทั่วประเทศนานหนึ่งเดือน
อิมพีเรียลคอลเลจลอนดอนและอิปซอสโมริเผยผลการศึกษาเบื้องต้นกับอาสาสมัครมากกว่า 100,000 คนในวันนี้ว่า มีผู้ติดเชื้อ 96 คน ต่อประชากร 10,000 คนระหว่างวันที่ 13-24 พฤศจิกายน เทียบกับวันที่ 16 ตุลาคม ถึง 2 พฤศจิกายนที่มีผู้ติดเชื้อ 130 คน ต่อประชากร 10,000 คน เท่ากับลดลงร้อยละ 30 อังกฤษเริ่มใช้มาตรการปิดเมืองทั่วประเทศระลอกสองเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน เพื่อควบคุมการระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบสาธารณสุข โดยมีกำหนดจะคลายมาตรการปิดเมืองจากทั่วประเทศ เหลือเพียงระดับภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม เป็นต้นไป
กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษออกแถลงการณ์ว่า ผลการศึกษานี้ชี้ว่ามาตรการปิดเมืองทั่วประเทศสามารถลดอัตราการแพร่เชื้อได้สำเร็จ อัตราการแพร่เชื้ออยู่ที่ 0.88 ตอกย้ำข้อมูลที่เผยแพร่ไปเมื่อวันศุกร์ว่าอัตราการแพร่เชื้อลดลงร้อยละ 0-2 ในทุกวัน แม้ตัวเลขผู้ป่วยยังคงสูงอยู่ แต่ถือว่าลดลงมากในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศที่เตรียมจะใช้มาตรการเข้มงวดที่สุดในสัปดาห์หน้า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันถูกคนในพรรคอนุรักษ์นิยมของตัวเองวิจารณ์ว่าทำให้คนกว่าหนึ่งในสามของประเทศต้องถูกจำกัดการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างสุดโต่ง ขณะที่พรรคแรงงานที่เป็นฝ่ายค้านตำหนิเขาว่าดำเนินการล่าช้า รัฐสภาเตรียมลงมติมาตรการเข้มงวดทางตอนเหนือของประเทศในวันอังคาร นายกรัฐมนตรีจอห์นสันอาจต้องพึ่งเสียงฝ่ายค้านเพื่อผ่านมาตรการนี้.-สำนักข่าวไทย