โตเกียว 29 พ.ย.- สถิติรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า เดือนตุลาคมปีนี้เดือนเดียว มีคนฆ่าตัวตายมากกว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ และผู้หญิงเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนัก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นเผยว่า เดือนตุลาคมปีนี้มีคนตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง 2,153 คน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จนถึงวันศุกร์อยู่ที่ 2,087 คน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การแพร่ระบาดของโรคนี้อาจทำให้เกิดวิกฤติด้านสุขภาพจิต เพราะการที่มีคนว่างงานจำนวนมาก การโดดเดี่ยวทางสังคม และความวิตกกังวล กำลังทำให้คนทั่วโลกฆ่าตัวตาย นักวิชาการมหาวิทยาลัยวาเซดะของญี่ปุ่นที่ศึกษาเรื่องการฆ่าตัวตายชี้ว่า ญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 น้อยมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ แต่ยอดการฆ่าตัวตายก็ยังคงเพิ่มขึ้น สะท้อนว่าปัญหานี้ในประเทศอื่นน่าจะรุนแรงขึ้นในอนาคต
ช่วง 10 ปีจนถึงปี 2562 ญี่ปุ่นมีอัตราการฆ่าตัวตายลดลงเหลือราว 20,000 รายเมื่อปีก่อน ต่ำที่สุดนับจากเริ่มเก็บสถิติในปี 2521 แต่แนวโน้มกลับมาเพิ่มขึ้นในปีนี้ที่เกิดโรคโควิด-19 แพร่ระบาด โดยเฉพาะสตรี อัตราการฆ่าตัวตายของสตรีในญี่ปุ่นเมื่อเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 83 จากเดือนเดียวกันปีก่อน ขณะที่อัตราการฆ่าตัวตายของผู้ชายเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 22 แม้ว่าตัวเลขโดยรวมของสตรีจะน้อยกว่าก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เป็นเพราะสตรีจำนวนมากทำงานไม่ประจำในภาคบริการ โรงแรม และค้าปลีก เป็นกลุ่มที่ถูกเลิกจ้างมากที่สุด ส่วนสตรีที่ยังมีงานทำมักต้องแบกรับภาระที่ไม่มีค่าจ้างอย่างการดูแลลูกควบคู่ไปด้วย ยังไม่รวมความเครียดว่าลูกจะติดโรคโควิด-19 หรือไม่.-สำนักข่าวไทย