ฮานอย 12 พ.ย.- เวียดนามในฐานะเจ้าภาพการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ผ่านระบบประชุมทางไกลยืนยันว่า จะมีการลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรืออาร์เซ็ป(RCEP) ในการประชุมครั้งนี้
นายกรัฐมนตรีเหงียน ซวนฟุกของเวียดนามยืนยันดังกล่าวระหว่างกล่าวเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 37 แบบออนไลน์ในวันนี้ สอดคล้องกับที่นายโมฮัมเหม็ด อาซมิน อาลี รัฐมนตรีการค้ามาเลเซียกล่าวก่อนการประชุมว่า หลังจากเจรจาอย่างเลือดตาแทบกระเด็นมานาน 8 ปี ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะได้อนุมัติอาร์เซ็ปในวันอาทิตย์นี้เสียที นักเศรษฐศาสตร์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของไอเอชเอสมาร์กิต ที่ปรึกษาธุรกิจระดับโลกมองว่า อาร์เซ็ปซึ่งประกอบด้วย 10 ชาติสมาชิกอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) รวมกันราวร้อยละ 30 ของจีดีพีโลก จะเป็นก้าวเชิงบวกครั้งใหญ่ไปสู่การเปิดเสรีการค้าและการลงทุนในภูมิภาคนี้ และจะเป็นเขตการค้าเสรีที่มีจีดีพีมากที่สุดในโลก
สมาชิกอาร์เซ็ปสรุปข้อตกลงได้ในการประชุมสุดอาเซียนที่ไทยเมื่อปลายปีก่อน แต่อินเดียขอไม่เข้าร่วมเพราะห่วงเรื่องสินค้าราคาถูกจากจีนทะลักเข้าประเทศ ที่ประชุมเปิดช่องให้เข้าร่วมได้ในภายหลังหากเปลี่ยนท่าที ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้า คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์เห็นว่า อาร์เซ็ปเป็นกลไกของจีนในการร่างระเบียบการค้าในภูมิภาคนี้ หลังจากสหรัฐถอนตัวไปในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และจะเอื้อประโยชน์ให้แก่เป้าหมายด้านภูมิรัฐศาสตร์ของจีน แต่สหรัฐสมัยรัฐบาลโจ ไบเดนอาจกลับเข้ามามีความสัมพันธ์กับภูมิภาคนี้อีกครั้ง ตามแนวทางของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ด้านนักวิชาการศูนย์พหุภาคีศึกษา บัณฑิตวิทยาลัยนานาชาติศึกษาเอส ราชรัตนัมในสิงคโปร์เชื่อว่า อาร์เซ็ปจะช่วยบรรเทาผลกระทบทางการเงินให้แก่อาเซียน และช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เพราะธุรกิจจะสามารถกระจายห่วงโซ่อุปทานให้หลากหลายขึ้นและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่เศรษฐกิจในภูมิภาค.- สำนักข่าวไทย