“โจ ไบเดน” ขยับเข้าใกล้เก้าอี้ทำเนียบขาว

สหรัฐ 6 พ.ย. – ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐกำลังขับเคี่ยวชิงชัยกันอย่างดุเดือด โดยนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต กำลังเข้าใกล้ทำเนียบขาวมากที่สุด มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งใกล้ถึง 270 คะแนนที่จะชี้ขาดผู้ชนะ สื่อหลักรายงานตัวเลขต่างกัน ขณะที่ผลชี้ขาดจะอยู่ที่ 6 รัฐสำคัญที่การนับคะแนนกำลังคู่คี่ แต่นายไบเดนเป็นฝ่ายได้เปรียบ


นายไบเดนมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 253 คะแนน ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตามห่างที่ 214 คะแนน นายไบเดนได้เปรียบ เพราะชนะอีกเพียงไม่กี่รัฐก็จะรวบรวมคะแนนคณะผู้เลือกตั้งได้ถึง 270 คะแนน กำชัยชนะสู่ทำเนียบขาวได้ทันที โดยรัฐที่จะชี้ชะตาการเลือกตั้งคือ เนวาดา แอริโซนา จอร์เจีย นอร์ทแคโรไลนา และเพนซิลเวเนีย

รัฐเนวาดา นายไบเดนนำอยู่เล็กน้อย กว่าบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์จะมาครบทุกใบ คาดว่าน่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ส่วนรัฐจอร์เจีย นายทรัมป์นำแค่ 1,800 คะแนน การนำของนายทรัมป์ลดลงอย่างรวดเร็ว จนล่าสุดอยู่ที่เท่ากันกับนายไบเดนแล้ว ขณะนี้ยังเหลือบัตรที่ต้องนับคะแนนอีก 14,000 ใบ


ส่วนรัฐแอริโซนา นายไบเดนนำนายทรัมป์อยู่เล็กน้อย ที่น่าจับตาคือ รัฐเพนซิลเวเนีย พบว่ายิ่งมีการนับบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ คะแนนของนายทรัมป์ก็ยิ่งลดลง ขณะนี้นายทรัมป์นำอยู่เพียง 220,000 คะแนนเท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุผลให้นายทรัมป์ประท้วงและประกาศฟ้องศาลขอให้หยุดนับคะแนนในรัฐนี้ โดยไม่ยอมรับผลการตัดสินของศาลที่ว่าสามารถนับบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ที่ส่งมาถึงหน่วยเลือกตั้งช้ากว่าวันเลือกตั้ง 3 วันได้

ขณะที่บรรยากาศทั่วสหรัฐเต็มไปด้วยการประท้วงวุ่นวาย ทั้งจากฝ่ายหนุนนายทรัมป์และนายไบเดน แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น ล่าสุดผู้พิพากษาส่วนกลางของสหรัฐปฏิเสธคำร้องของคณะหาเสียงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ขอให้หยุดการนับคะแนนบัตรเลือกตั้งในเมืองฟิลาเดลเฟียของรัฐเพนซิลเวเนีย โดยคณะหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้งเขตฟิลาเดลเฟีย เพื่อขอใช้คำสั่งฉุกเฉิน และระบุว่าเจ้าหน้าที่เลือกตั้งจงใจไม่อนุญาตให้ตัวแทนและผู้สังเกตการณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์ และพรรครีพับลิกัน เข้าไปสังเกตการณ์การนับบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง โดยยื่นคำร้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐในเมืองฟิลาเดลเฟีย

ขณะที่นายพอล ไดมอนด์ ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐ ประกาศไม่รับคำฟ้องของคณะหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อนหน้านี้ศาลอุทธรณ์ประจำรัฐเพนซิลเวเนียประกาศให้ผู้สังเกตการณ์ของพรรครีพับลิกันสามารถเข้าไปในศูนย์นับคะแนนเลือกตั้งในเมืองฟิลาเดลเฟียได้มากขึ้น เพื่อสังเกตการนับคะแนนของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ผู้พิพากษาของรัฐจอร์เจียกับรัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นรัฐที่มีคะแนนสูสี ประกาศไม่รับคำฟ้องของคณะหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 7 เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งในภาคเหนือและอีสาน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 23-25 ก.พ.68)

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ส่งชาวจีนกลับบ้าน

เสร็จสิ้นภารกิจส่ง 621 เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีน

จบภารกิจส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา รวม 3 วัน 13 เที่ยวบิน ส่งกลับชาวจีน 621 คน ที่เหลือต้องรอการเจรจา 3 ฝ่าย ไทย จีน และเมียนมา กำหนดแนวทางรับตัวอีกครั้ง