พอร์ตแลนด์ 5 พ.ย. – เกิดเหตุเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายซ้ายในย่านใจกลางเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอนในสหรัฐ หลังกลุ่มผู้ต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์บุกทำลายกระจกร้านค้าได้รับความเสียหาย
สำนักงานตำรวจเขตมัลท์โนมาประกาศให้เหตุจลาจล และจับกุมกลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายซ้ายอย่างน้อย 9 คนฐานก่อความรุนแรงอย่างกว้างขวางในย่านใจกลางเมืองพอร์ตแลนด์ โดยย้ำเตือนหลายครั้งว่า อาจนำอาวุธและแก๊สน้ำตามาใช้ สำนักงานตำรวจดังกล่าวระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เหตุการณ์ชุมนุมดังกล่าวเป็นเหตุจลาจล ขอให้ทุกคนออกจากพื้นที่ทันที และระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายรายถูกโจมตีด้วยการขว้างปาวัตถุ เช่น ขวดแก้ว ขณะที่นางเคต บราวน์ ผู้ว่าการรัฐออริกอนได้สั่งการให้กองกำลังพิทักษ์ชาตินำกำลังลงพื้นที่ดังกล่าว เพื่อช่วยตำรวจท้องถิ่นควบคุมสถานการณ์แล้ว เมืองพอร์ตแลนด์มักเกิดเหตุปะทะกันระหว่างตำรวจและกลุ่มผู้ประท้วงอยู่บ่อยครั้งในช่วยหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วงไม่พอใจที่ชาวอเมริกันผิวสีเสียชีวิตจากการใช้กำลังของตำรวจอยู่บ่อยครั้ง
กลุ่มผู้ต่อต้านประธานาธิบดีทรัมป์ที่รวมตัวกันบริเวณริมแม่น้ำในเมืองพอร์ตแลนด์ปฏิญาณพร้อมกันว่า ปกป้องผลการเลือกตั้ง และชูป้ายที่เขียนข้อความว่า ‘นับทุกคะแนนเสียง’ และ ‘ผลการลงคะแนนสิ้นสุดแล้ว แต่การต่อสู้ยังคงอยู่’ แกนนำของกลุ่มผู้ประท้วงกล่าวกับบรรดาผู้ชุมนุมท่ามกลางเสียงเชียร์ว่า พวกเราไม่ต้องการประธานาธิบดีทรัมป์ ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนพกปืนไรเฟิล และชูป้ายที่เขียนข้อความว่า ‘พวกเราไม่ต้องการไบเดน แต่ต้องการล้างแค้น’. – สำนักข่าวไทย