วิสคอนซิน 2 พ.ย.- สตรีวัย 20 ปีชาวรัฐวิสคอนซินที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งกระดูกมานานสิบปีใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าด้วยการลงคะแนนผ่านทางไปรษณีย์ แต่การใช้สิทธิครั้งแรกในชีวิตถูกประกาศให้เป็นโมฆะเพราะเธอเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน ประเด็นนี้อาจทำให้ผลคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีนี้พลิกผันได้
แอมเบอร์ ฟลูจฮอฟต์ พลาดการใช้สิทธิเลือกตั้งกลางสมัยเมื่อสองปีก่อน เนื่องจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลหลังจากรับการปลูกถ่ายไขกระดูก เธอจึงมุ่งมั่นมากที่จะสิทธิในปีนี้ แต่หลังจากส่งไปรษณีย์บัตรลงคะแนนล่วงหน้าได้ไม่กี่วัน อาการของเธอทรุดลงอย่างรวดเร็ว ต้องกลับเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตเมื่อปลายเดือนกันยายน คะแนนของเธอจะกลายเป็นโมฆะตามกฎหมายเลือกตั้งของรัฐวิสคอนซิน
ซีเอ็นเอ็น (CNN) อ้างผลการวิจัยของที่ประชุมรัฐสภาระดับรัฐแห่งชาติว่า รัฐต่าง ๆ ในสหรัฐมีความแตกต่างกันเรื่องจะนับคะแนนของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วเสียชีวิตก่อนวันเลือกตั้งหรือไม่ หลายรัฐนับ หลายรัฐไม่นับ และหลายรัฐยังไม่ชัดเจน รัฐสวิงสเตทหรือแบตเทิลกราวด์สเตทที่ไม่เป็นฐานเสียงของพรรคใดอย่างวิสคอนซิน ไอโอวา มิชิแกน นอร์ทแคโรไลนา และเพนซิลเวเนียไม่นับ ขณะที่รัฐสวิงสเตทอย่างแอริโซนา ฟลอริดา จอร์เจียและโอไฮโอนับ ประเด็นนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีนี้ เนื่องจากมีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์ในขณะที่หลายรัฐมีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้น คะแนนล่วงหน้าเหล่านี้อาจทำให้ผลคะแนนเลือกตั้งเกิดความพลิกผันได้ สหรัฐมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 230,000 คน ติดเชื้อสะสมกว่า 9 ล้านคน ขณะที่ทั้งโลกมีผู้เสียชีวิตกว่า 1.1 ล้านคน ติดเชื้อสะสมกว่า 46 ล้านคน .- สำนักข่าวไทย