วอชิงตัน 30 ต.ค.- หอการค้าสหรัฐเรียกร้องบริษัทสมาชิกและผู้นำชุมชนท้องถิ่น เพิ่มความพยายามชะลอการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ด้วยการใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อเลี่ยงการต้องถูกปิดเมืองหรือล็อกดาวน์รอบใหม่
เจ้าหน้าที่หอการค้าสหรัฐกล่าวกับตัวแทนบริษัทสมาชิกราว 800 แห่งผ่านการนำเสนอผ่านเว็บหรือเว็บแคสต์ว่า ภาคธุรกิจจะต้องเป็นแกนนำในการดำเนินมาตรการบรรเทาผลกระทบจากโรคโควิด-19 หลังจากฝรั่งเศสและเยอรมนีกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งและทำเนียบขาวเตือนว่ายอดผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นไม่หยุดทำให้ต้องใช้มาตรการรุนแรงขึ้น สถานการณ์การแพร่ระบาดในยุโรปดูเหมือนจะล่วงหน้าสหรัฐราว 1 เดือน หากสหรัฐไม่ต้องการเผชิญสถานการณ์แบบเดียวกันกับยุโรป ไม่ต้องการล็อกดาวน์แบบที่เคยใช้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็ต้องเร่งดำเนินมาตรการบรรเทาผลกระทบ ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และรักษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้กันชัดเจนแล้ว ไม่เหมือนช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ยังมีความสับสนและไม่เข้าใจไวรัสดีนัก
เจ้าหน้าที่หอการค้าสหรัฐระบุว่า เป้าหมายคือเลี่ยงการใช้ “สวิตช์” ปิดส่วนสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐและก่อผลหายนะให้แก่ธุรกิจขนาดเล็กมาแล้ว แต่ควรใช้ “ปุ่มกด” ทยอยลดกิจกรรมบางอย่าง ขอให้ภาคธุรกิจหารือเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และสนับสนุนให้ทางการท้องถิ่นบังคับให้คนสวมหน้ากากอนามัยและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอื่น ๆ.- สำนักข่าวไทย