เจนีวา 16 ต.ค.- องค์การอนามัยโลกเผยผลการศึกษาที่ระบุว่า ได้ข้อสรุปและน่าผิดหวังว่า เรมเดซิเวียร์มีผลน้อยมากหรือไม่มีผลเลยในการลดอัตราเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาล และดูเหมือนจะไม่ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้นด้วย ด้านผู้ผลิตยาแย้งผลการศึกษานี้
องค์การอนามัยโลกโพสต์ผลการศึกษาขั้นต้นที่ครอบคลุมผู้ป่วยโรคโควิด-19 กว่า 11,000 คน ใน 30 ประเทศ ลงในเว็บไซต์เมดอาร์ไควฟ์ (medrxiv.org) ว่า ได้ศึกษายา 4 ขนานที่นำมาปรับใช้กับผู้ป่วยได้แก่ เรมเดซิเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัส ไฮดร็อกซีคลอโรควิน ซึ่งเป็นยาต้านมาลาเรีย รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และโรคลูปัส ยาต้านไวรัสเอชไอวีสูตรผสมระหว่างโลปินาเวียร์กับริโตนาเวียร์ และอินเตอร์เฟอรอน ซึ่งเป็นยาฆ่าไวรัสและควบคุมระดับภูมิต้านทาน พบว่า ไม่มียาขนานใดช่วยให้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีชีวิตได้นานขึ้นหรือออกจากโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลเรื่องลดอัตราเสียชีวิต ยาทุกขนานน่าผิดหวังและไม่มีความหวังเลย
ผลการศึกษาหลายชิ้นก่อนหน้านี้ระบุว่า ไฮดร็อกซีคลอโรควินและยาต้านไวรัสเอชไอวีสูตรผสมไม่ให้ผลกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ขณะที่เรมเดซิเวียร์เป็นยาขนานเดียวในขณะนี้ที่สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐหรือเอฟดีเอ (FDA) อนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉินกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ผลการศึกษาขนาดใหญ่ในสหรัฐระบุว่า เรมเดซิเวียร์ช่วยให้ผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่อาการหนักที่ต้องนอนโรงพยาบาลฟื้นตัวเร็วขึ้นราว 1 ใน 3 แต่แทบไม่มีผลกับผู้ป่วยอาการปานกลาง ด้านกิเลียดไซเอินซ์ ผู้ผลิตเรมเดซิเวียร์แย้งว่า ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกดูเหมือนไม่สอดคล้อง ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจนจากการศึกษามากมายที่มีการควบคุมและเผยแพร่ในวารสารที่มีผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่า ยาขนานนี้ให้ผลทางคลินิก และยังไม่แน่ใจว่าจะสรุปได้หรือไม่ในเมื่อเป็นการศึกษาจากแตกต่างกันทั้งสถานที่และผู้ป่วยที่รับยา.- สำนักข่าวไทย