ย่างกุ้ง 14 ต.ค.- ธนาคารโลกเผยผลสำรวจในเมียนมาว่า ธุรกิจราวร้อยละ 75 ได้รับความเดือดร้อนจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมจนถึงเมื่อวานนี้อยู่ที่ 30,437 คน เสียชีวิต 693 คน
เว็บไซต์สำนักข่าวอิรวดีเผยผลสำรวจที่ธนาคารโลกสอบถามธุรกิจ 500 แห่งในภาคบริการ ค้าปลีก ค้าส่ง การผลิต และเกษตรกรรมเมื่อเดือนพฤษภาคม กรกฎาคม และสิงหาคม ร้อยละ 35 เป็นธุรกิจรายย่อย ร้อยละ 40 เป็นธุรกิจขนาดเล็ก ร้อยละ 19 เป็นธุรกิจขนาดกลาง และร้อยละ 6 เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ผู้ตอบร้อยละ 81 เผยว่าได้รับผลกระทบหนักในเดือนพฤษภาคม และลดลงเล็กน้อยเหลือร้อยละ 79 ในเดือนกรกฎาคม ในภาพรวมแล้วโรคโควิด-19 ยังคงมีผลกระทบเชิงลบ แต่ส่วนใหญ่ดีขึ้น ผลกระทบหนักที่สุดคือ ยอดขายลดลง รองลงมาคือการผลิตลดลง ปัญหาในการจัดหาสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้า และขาดกระแสเงินสด
ผลสำรวจพบว่า ธุรกิจในเมียนมาส่วนใหญ่พึ่งพาสินเชื่อจากเพื่อนและครอบครัว รองลงมาคือสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร มีเพียงร้อยละ 8 ที่ขอสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจที่เกรงว่าจะต้องปิดตัวภายใน 3 เดือนลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 36 ในเดือนพฤษภาคมเป็นร้อยละ 33 ในเดือนกรกฎาคม แต่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 40 ปีในเดือนสิงหาคม พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดี (NLD) ซึ่งเป็นรัฐบาลเริ่มร่างโครงการปฏิรูปและพื้นฟูเศรษฐกิจเมียนมาตั้งแต่เดือนกันยายน รับปากใช้งบประมาณเกือบ 2 ล้านล้านจ๊าต (เกือบ 47,950 ล้านบาท) บรรเทาผลกระทบทางสังคม สุขภาพและเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19
ขณะเดียวกันสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนอ้างกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาเมียนมาว่า เมื่อวานนี้พบผู้ป่วยใหม่ 1,123 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 30,437 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 29 คน รวมเป็น 693 คน มีผู้ป่วยหายแล้ว 11,769 คน และมีผู้รับการตรวจหาเชื้อแล้วทั้งหมด 441,926 คน.- สำนักข่าวไทย