โรม 2 ต.ค.- ทางการกรุงโรมและแคว้นลาซิโอ สถานที่ตั้งกรุงโรม ทางตอนกลางของอิตาลี จะบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่กลางแจ้ง หวังควบคุมการติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่กลับมาเพิ่มใหม่อีกครั้ง
เมื่อวานนี้อิตาลีพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 2,000 คนเป็นครั้งแรกนับจากสิ้นเดือนเมษายน ในจำนวนนี้ 265 คนอยู่ในแคว้นลาซิโอ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำแคว้นเผยกับสื่อขณะประกาศใช้มาตรการใหม่ว่า ผู้ป่วยใหม่ส่วนใหญ่ละเลยการสวมหน้ากากอนามัยและมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ดังนั้นทางการจะบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่กลางแจ้ง เช่นเดียวกับที่ใช้ในหลายแคว้น รวมทั้งแคว้นคัมปาเนีย ทางตอนใต้ของอิตาลี ที่ตั้งเมืองเนเปิลส์หรือนาโปลี ก่อนหน้านี้การสวมหน้ากากอนามัยบังคับใช้เฉพาะเมื่ออยู่ในที่สาธารณะที่เป็นที่ปิด เช่น ร้านค้า โรงภาพยนตร์
อิตาลีเป็นประเทศแรกในยุโรปที่เกิดโรคโควิด-19 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ยอดผู้ป่วยสะสมจนถึงขณะนี้อยู่ที่ 317,409 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 36,000 คน มากเป็นอันดับสองของยุโรปรองจากอังกฤษ ทางการใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดจนสามารถควบคุมการระบาดได้ในฤดูร้อน แต่ยอดผู้ป่วยเริ่มเพิ่มขึ้นในช่วงสองเดือนมานี้ อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีจูเซปเป กอนเต ยืนยันจะไม่กลับไปล็อกดาวน์ทั้งประเทศอีกครั้ง ทางการเผยว่า อาจจะเข้มงวดเป็นบางพื้นที่หากมีการติดเชื้อในชุมชนเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย