วอชิงตัน 2 ต.ค.- สื่ออังกฤษระบุว่า หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เขาอาจต้องมอบอำนาจบริหารให้แก่รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ขณะที่พรรครีพับลิกันยังพอมีเวลาที่จะเลือกผู้สมัครชิงประธานาธิบดีคนใหม่แทนเขา
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลีเมล์ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ อายุ 74 ปีแล้ว จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรง การตรวจพบเชื้อไวรัสในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนตามเวลาสหรัฐ ทำให้รัฐบาลอาจต้องพิจารณาแผนสำรองที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญในกรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ป่วยเกินกว่าจะลงเลือกตั้งต่อ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 25 ที่ได้รับสัตยาบันในปี 2510 เรื่องการสืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีระบุไว้ว่า หากประธานาธิบดีถูกถอดถอนจากตำแหน่ง เสียชีวิตหรือลาออก ให้รองประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งแทน แต่หากรองประธานาธิบดีไม่สามารถทำได้ ให้เป็นหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร ขณะเดียวกันคณะกรรมการแห่งชาติพรรครีพับลิกันอาจเลือกผู้สมัครชิงประธานาธิบดีแทนทรัมป์ กรรมการทั้ง 168 คนจะต้องประชุมเพื่อลงมติในเรื่องนี้ และจะเป็นครั้งแรกที่มีการทำเช่นนี้เพราะไม่เคยมีผู้สมัครที่เป็นตัวแทนพรรคใดเสียชีวิตหรือถอนตัวก่อนการเลือกตั้งมาก่อน
รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์และรัฐมนตรีหลัก 8 ใน 15 กระทรวงจะต้องเห็นพ้องกันเรื่องทำหนังสือแจ้งต่อรัฐสภาว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ไร้ความสามารถในการบริหารประเทศ เมื่อหนังสือไปถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกอาวุโสสูงสุดที่เป็นประธานผู้ทำหน้าที่ชั่วคราว (president pro tempore) เพนซ์ซึ่งเป็นประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่งจะทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี อีกทางหนึ่งรัฐสภาอาจตั้งคณะกรรมการขึ้นตัดสินว่าประธานาธิบดีทรัมป์เหมาะที่จะดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ เพนซ์จะต้องเห็นพ้องกับคำตัดสินแล้วทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกอาวุโสสูงสุด แต่หากทรัมป์ยืนยันว่ายังมีความสามารถ เขาต้องทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกอาวุโสสูงสุดภายใน 4 วัน เพื่อให้ทั้งสองสภาอภิปรายสูงสุด 3 สัปดาห์ ทรัมป์จะถูกปลดหากเสียงสองในสามของทั้งสองสภาเห็นพ้องกับเพนซ์ แต่หากสภาตกลงกันไม่ได้ ทรัมป์จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปและน่าจะปลดเพนซ์พร้อมกับรัฐมนตรีที่ทรยศเขา.- สำนักข่าวไทย