ปักกิ่ง 28 ก.ย.- คณะนักวิทยาศาสตร์จีนเผยผลการศึกษาใหม่ว่า นมแม่อาจช่วยป้องกันหรือรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้
คณะนักวิจัยนำโดย ศ.ถง อีกัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเคมีปักกิ่งเขียนลงในวารสารที่ไม่ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญอื่นตรวจสอบและโพสต์ลงในเว็บไซต์ไบโออาร์ไควฟ์ (biorxiv.org) เมื่อวันศุกร์ว่า ได้นำนมแม่ที่เก็บไว้เมื่อปี 2560 ไปผสมกับเซลล์สุขภาพดีหลากหลายประเภท มีตั้งแต่เซลล์ไตสัตว์ไปจนถึงเซลล์ปอดและเซลล์ลำไส้คนอายุน้อย จากนั้นล้างนมออกแล้วนำเซลล์ไปรับ Sars-CoV-2 ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคโควิด-19 สังเกตพบว่า ไวรัสไม่สามารถจับหรือเข้าไปในเซลล์ หรือหากเข้าไปแล้วก็ไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ จึงได้ข้อสรุปวา นมแม่สามารถยับยั้งการติดเชื้อไวรัสโคโรนาดังที่รู้กันดีว่าสามารถยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อไวรัสหลายตัว เช่น เอชไอวีที่ทำเป็นโรคเอดส์
นักวิจัยสันนิษฐานว่า เชื้อไวรัสโคโรนาอาจไวต่อโปรตีนต่อต้านไวรัสในนมแม่ เช่น แลกโตเฟอร์ริน แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ สารอาหารในนมแม่ที่น่าจะยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาได้มากที่สุดคือ เวย์ ซึ่งประกอบด้วยโปรตีนย่อยหลากหลายชนิด เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับนมโคและนมแพะพบว่า เวย์ในนมแม่ยับยั้งไวรัสมีชีวิตได้เกือบทั้งหมด ส่วนเวย์ในนมโคและแพะยับยั้งได้ร้อยละ 70 แต่หากอุ่นนมแม่ให้ร้อน 90 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 10 นาที ประสิทธิภาพจะลดลงเหลือไม่ถึงร้อยละ 20
ผลการศึกษานี้สนับสนุนจุดยืนอย่างเป็นทางการขององค์การอนามัยโลกที่ว่า มารดาควรให้นมบุตรต่อไปแม้ติดโรคโควิด-19 เพราะผลการติดตามมารดาติดโควิด 46 คนในหลายประเทศที่ให้นมบุตรตลอดทั้งเดือนมิถุนายนพบพันธุกรรมไวรัสในนมมารดา 3 คน แต่ไม่พบหลักฐานการแพร่เชื้อสู่ลูก และพบเด็กเพียงคนเดียวที่ติดเชื้อโดยอาจจะติดจากอย่างอื่นที่ไม่ใช่นมแม่ ก่อนหน้านี้มีการเตือนว่า นมแม่อาจเป็นช่องทางแพร่ไวรัสจากแม่สู่ลูก ทารกแรกเกิดในเมืองอู่ฮั่นที่พบโรคโควิด-19 เป็นแห่งแรกของโลกถูกแยกจากมารดาที่ติดเชื้อและให้ดื่มนมผงอย่างเดียว ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐเตือนว่า ทารกที่กินนมแม่ติดเชื้อหรือต้องสงสัยติดเชื้อควรถือว่าต้องสงสัยติดเชื้อเช่นเดียวกัน.- สำนักข่าวไทย