นิวยอร์ก 24 ก.ย. – ทางการซาอุดีอาระเบียส่งจดหมายแจ้งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติวันนี้ หลังพบคราบน้ำมันห่างออกไป 50 กิโลเมตรทางตะวันตกของเรือบรรทุกน้ำมันเกยตื้นนอกชายฝั่งเยเมน และอาจทำให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ท้องทะเลมากถึง 1.1 ล้านบาร์เรล
เรือบรรทุกน้ำมันเซฟเฟอร์เกยตื้นบริเวณท่าเทียบเรือของท่าเรือราสอิสซาในทะเลแดงของเยเมนมาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว สหประชาชาติเคยเตือนว่า เรือเซฟเฟอร์อาจทำให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลมากกว่าอุบัติเหตุน้ำมันรั่วของเรือเอ็กซอนวัลเดซนอกชายฝั่งรัฐอะแลสกาในปี 2532 ถึง 4 เท่า สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างจดหมายที่ทูตซาอุดีอาระเบียประจำสหประชาชาติส่งถึงประเทศภาคีสมาชิก 15 ประเทศว่า ท่อส่งน้ำมันที่เชื่อมต่อกับเรือบรรทุกน้ำมันเซฟเฟอร์ได้แยกออกจากระบบเสถียร และทำให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ท้องทะเล สภาพเรือดังกล่าวใกล้เข้าภาวะวิกฤตเต็มทีแล้ว สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นภัยต่อกลุ่มประเทศในแถบทะเลแดง โดยเฉพาะเยเมนและซาอุดีอาระเบีย ทั้งเน้นย้ำว่า ประเทศสมาชิกภาคีไม่ควรเพิกเฉยต่อสถานการณ์ดังกล่าว
สหประชาชาติกำลังรอการอนุญาตอย่างเป็นทางการจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเพื่อส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปประเมินสภาพหรือซ่อมแซมเรือบรรทุกน้ำมันเซฟเฟอร์ ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติต่างเรียกร้องให้กลุ่มกบฏฮูตียินยอมอนุญาตให้เข้าถึงพื้นที่ดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย