ปักกิ่ง 22 ก.ย.- นักอสังหาริมทรัพย์สูงวัยชาวจีนที่วิจารณ์ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเรื่องการรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ถูกตัดสินจำคุก 18 ปีในข้อหาทุจริต รับสินบนและยักยอกเงินสาธารณะ
นายเหริน จื้อเฉียง วัย 69 ปี เคยเป็นประธานหัวหยวนกรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของรัฐและกรรมการเทศบาลปักกิ่งในที่ประชุมที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน มักวิพากษ์วิจารณ์อย่างโผงผางจนได้ฉายาว่า “ปืนใหญ่อันเขื่อง” เขาหายหน้าไปจากสาธารณะตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม หลังจากเขียนบทความวิจารณ์ประธานาธิบดีสีเรื่องโควิด-19 คณะกรรมการวินัยเปิดการสอบสวนเขาในเดือนเมษายน จากนั้นศาลประชาชนกลางกรุงปักกิ่งหมายเลข 2 เปิดการไต่สวนเมื่อวันที่ 11 กันยายน และมีคำตัดสินในวันนี้ว่า นายเหรินยักยอกเงินสาธารณะเกือบ 50 ล้านหยวน (เกือบ 231 ล้านบาท) รับสินบนมูลค่า 1.25 ล้านหยวน (ราว 5.78 ล้านบาท) เขารับสารภาพอย่างเต็มใจและตามความเป็นจริงว่ากระทำความผิดทั้งหมด และจะไม่อุทธรณ์คำตัดสิน ศาลจึงลงโทษด้วยการจำคุก 18 ปี และปรับเงิน 4.2 ล้านหยวน (ราว 19.41 ล้านบาท) คำตัดสินอ้างด้วยว่า นายเหรินใช้อำนาจโดยมิชอบระหว่างเป็นประธานหัวหยวนกรุ๊ป เป็นเหตุให้กลุ่มบริษัทเสียหายกว่า 116 ล้านหยวน (กว่า 536 ล้านบาท) และขาดทุนด้านอสังหาริมทรัพย์กว่า 53 ล้านหยวน (กว่า 245 ล้านบาท)
นายเหรินเขียนบทความเมื่อต้นปีโดยไม่ระบุชื่อประธานาธิบดีสีว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เปิดโปงความจริงที่ว่าพรรคคอมมิวนิสต์และเจ้าหน้าที่รัฐบาลห่วงแต่ปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง ขณะที่ผู้ปกครองก็ห่วงแต่ปกป้องผลประโยชน์และตำแหน่งของตัวเอง ผู้ที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่จักรพรรดิอวดเสื้อผ้าใหม่ แต่เป็นตัวตลกแก้ผ้าที่ดึงดันว่าตัวเองเป็นจักรพรรดิ บทความนี้ถูกลบในอินเทอร์เน็ตจีน แต่ถูกแชร์ในอินเทอร์เน็ตนอกประเทศ นายเหรินเป็นนักเขียนบล็อกในเวยปั๋วที่มีผู้ติดตามหลายล้านคน บัญชีของเขาถูกปิดในปี 2559 หลังจากเรียกร้องเสรีภาพสื่อมวลชนครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเป็นบุตรชายอดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์หลายสิบปี รู้จักแกนนำพรรคหลายคน ก่อนถูกขับออกจากพรรคในเดือนกรกฎาคม.- สำนักข่าวไทย