ฮ่องกง 22 ก.ย.- สมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนมีความเห็นตรงกันมากขึ้นว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีน ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ และผลกระทบจากสงครามการค้าจะยังคงอยู่ ไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ในฮ่องกงอ้างผลสำรวจภาครัฐ ภาคเอกชนและสื่อในภูมิภาคนี้โดยสถาบันไอเอสอีเอเอส-ยูซอฟอิสฮัคในสิงคโปร์เมื่อเดือนมกราคมว่า ผู้ตอบร้อยละ 60 เชื่อว่าสหรัฐจะเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ดีขึ้นหากการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตชนะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ขณะที่นักสังเกตการณ์ทางการทูตมองว่า ความกังวลใหญ่ในปัจจุบันอย่างสงครามที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่เจตนาในทะเลจีนใต้และผลกระทบยืดเยื้อจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐจะไม่หมดไปในเร็ว ๆ นี้ เพราะการแข่งขันระหว่างสองชาติมหาอำนาจนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่สมัยรัฐบาลทรัมป์ แต่เป็นลักษณะทางโครงสร้างของนโยบายต่างประเทศสหรัฐและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สหรัฐไม่เคยมีนโยบายอาเซียนโดยเฉพาะ ความสัมพันธ์จึงไม่ต่อเนื่องและเปลี่ยนไปตามการแข่งขันกับจีน
นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุงของสิงคโปร์เคยตอบสภาแอตแลนติก หน่วยงานวิชาการของสหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า หากทรัมป์หรือไบเดนโทรหาหลังชนะเลือกตั้งจะมีคำแนะนำอย่างไรว่า ประการแรกจะขอให้รัฐบาลใหม่สหรัฐมีความสัมพันธ์ที่มีเสถียรภาพกับจีน เพื่อให้อาเซียนมั่นใจและคาดการณ์ได้ว่าจะดำเนินชีวิตไปในทิศทางใด ประการที่สองหวังว่ารัฐบาลใหม่สหรัฐจะมีนโยบายเอเชียที่ทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตเห็นตรงกัน เพื่อให้นโยบายต่อเนื่องไปยังรัฐบาลชุดต่อไป ประการสุดท้ายจะขอให้สหรัฐหาทางกลับเข้ามาร่วมในข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทีพีพี (TPP) เพราะไม่เพียงเป็นการเดินหน้าผลประโยชน์สหรัฐในภูมิภาคนี้ แต่ยังจะช่วยขับเคลื่อนให้มีความร่วมมือและใช้ระเบียบที่ถูกต้องเพื่อสร้างความไว้วางใจ ยกระดับมาตรฐานการค้า และการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน.- สำนักข่าวไทย