มาดริด 21 ก.ย. – ทางการสเปนประกาศให้ประชาชนราวล้านคนทั้งในกรุงมาดริดและพื้นที่โดยรอบปฏิบัติตามคำสั่งกักตัวอยู่ในบ้านแบบใหม่เพื่อควบคุมตัวเลขผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตเกือบ 200,000 คนแล้ว
มาตรการเข้มงวดดังกล่าวในกรุงมาดริดมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 2 สัปดาห์เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นและในย่านที่มีรายได้น้อยจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น เช่น ไปทำงาน เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรือพาลูกไปโรงเรียน ขณะที่เมื่อวานนี้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขตที่ได้รับผลกระทบต่างออกมารวมตัวกันบนท้องถนนเพื่อประท้วงมาตรการใหม่ของรัฐบาล พวกเขาเขียนป้ายประท้วงที่มีข้อความว่า ‘ต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ที่แบ่งแยกชนชั้น’ และ ‘ทางการทำลายเขตของเราแล้วกักขังเราไว้ในบ้าน’ ด้านทางการสเปนที่กำลังรับมือกับการระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 เน้นย้ำว่า การประกาศมาตรการล็อกดาวน์ใหม่เป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากยอดผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นในเขตเหล่านั้นมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ
ส่วนสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 6.8 ล้านคน และผู้เสียชีวิตเกือบ 200,000 คน ขณะที่งานประกาศผลรางวัลเอมมีที่ถือเป็นรางวัลใหญ่ในวงการโทรทัศน์อเมริกันจัดขึ้นท่ามกลางความเงียบเหงาที่โรงละครไมโครซอฟต์เธียเตอร์ในนครลอสแอนเจลิสที่เต็มไปด้วยแผ่นป้ายรูปภาพดารานักแสดงชื่อดัง และผู้เข้าชิงรางวัลราว 130 คนที่เข้าร่วมงานผ่านระบบออนไลน์ ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 31 ล้านคน และผู้เสียชีวิต 958,000 คน. – สำนักข่าวไทย