มะนิลา 19 ก.ย.- ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์สั่งให้ประชาชนรักษาระยะห่าง 1 เมตรบนรถโดยสารสาธารณะต่อไปเพื่อลดความเสี่ยงติดหรือแพร่เชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19
ระบบรถโดยสารสาธารณะฟิลิปปินส์ขึ้นชื่อเรื่องแออัดยัดเยียด ผู้คนต้องเข้าแถวรอยาวเหยียดและมักมีการเปลี่ยนไปมาอยู่เสมอ โฆษกประธานาธิบดีเผยกับสถานีโทรทัศน์ของรัฐในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีได้พิจารณาคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขที่เตือนว่าการลดระยะห่างผู้โดยสารบนรถโดยสาร รถไฟ และรถสองแถวที่เรียกว่าจี๊ปนีย์ ลงเหลือ 30 เซนติเมตร อาจทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คงระยะห่างไว้ที่ 1 เมตรต่อไป รวมทั้งห้ามรับประทานและพูดคุยระหว่างอยู่บนรถสาธารณะ และต้องสวมทั้งเฟซชิลด์และหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
กระทรวงคมนาคมแถลงวันนี้ว่า จะปฏิบัติตามคำสั่งของประธานาธิบดีอย่างเคร่งครัด หลังจากก่อนหน้านี้ประกาศจะทยอยลดระยะห่างลงเหลือ 75 เซนติเมตรตั้งแต่วันจันทร์ 50 เซนติเมตรตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน และ 30 เซนติเมตรตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนเดินทางเนื่องจากธุรกิจทยอยเปิดอีกครั้ง ขณะที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้รักษาระยะห่าง 1 เมตรเพื่อเลี่ยงการติดหรือแพร่เชื้อ
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การลดระยะห่างเร็วเกินไปจะทำให้การระบาดระลอกแรกในฟิลิปินส์ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนมีนาคมยืดเยื้ออกไปอีก ปัจจุบันฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 279,526 คน กว่าหนึ่งในสามเป็นผู้ติดเชื้อในช่วง 30 วันที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิต 4,830 คน มากเป็นอันดับสองของภูมิภาครองจากอินโดนีเซียที่มีผู้เสียชีวิต 9,336 คน และมีผู้ป่วย 236,519 คน.-สำนักข่าวไทย