สิงคโปร์ 17 ก.ย.- สิงคโปร์มีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กว่า 57,000 คน แต่มีผู้เสียชีวิตเพียง 27 คน อัตราเสียชีวิตต่ำที่สุดในโลก ทั้งนี้เพราะปัจจัยหลายประการ
รอยเตอร์รวบรวบข้อมูลประเทศที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไปพบว่า อัตราเสียชีวิตในสิงคโปร์อยู่ที่ร้อยละ 0.05 ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยโลกที่ร้อยละ 3 และหากเทียบกับประเทศที่มีจำนวนประชากรใกล้เคียงกันก็ยิ่งเห็นความแตกต่าง เช่น เดนมาร์กอยู่ที่ร้อยละ 3 ฟินแลนด์อยู่ที่ร้อยละ 4 นอกจากนี้สิงคโปร์ยังไม่มีผู้เสียชีวิตมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ผู้ป่วยร้อยละ 95 ในสิงคโปร์เป็นแรงงานต่างชาติวัย 20 และ 30 ปีเศษที่อาศัยตามหอพักแออัดและทำงานใช้แรงงาน ผู้ป่วยอายุน้อยเหล่านี้มักไม่แสดงอาการหรืออาการน้อยจึงหายป่วยได้เร็ว ขณะเดียวกันสิงคโปร์ควบคุมการแพร่ระบาดด้วยการตรวจหาแต่เนิ่น ๆ ทั้งการตรวจหาเชื้อและติดตามผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยเชิงรุก ข้อมูลทางการเผยว่า ตรวจตัวอย่างจากโพรงจมูกไปแล้วเกือบ 900,000 คน คิดเป็นกว่าร้อยละ 15 ของประชากร 5.7 ล้านคน ผู้มีสัญญาณการติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน 13 ประการขึ้นไปจะได้รับการตรวจหาเชื้อฟรี นักวิชาการคณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ระบุว่า ยิ่งตรวจมากยิ่งลดอัตราเสียชีวิตลงได้มาก
การป้องกันล่วงหน้ายังนำมาใช้กับการรักษาผู้ป่วยด้วย ผู้ป่วยอายุ 45 ปีขึ้นไปหรือผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวจะได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแม้ดูแข็งแรงดีก็ตาม ส่วนผู้ป่วยไม่มีอาการหรืออาการน้อยจะรับการรักษาตามโรงพยาบาลสนามที่ตั้งขึ้นชั่วคราว เป็นการแบ่งเบาภาระเพื่อให้ระบบสาธารณสุขสามารถทุ่มเททรัพยากรให้แก่ผู้ป่วยอาการหนัก ขณะนี้ไม่มีผู้ป่วยโควิด-19 ในหอผู้ป่วยวิกฤตแล้ว เหลือผู้ที่ยังอยู่โรงพยาบาล 42 คน และผู้ที่ยังอยู่ตามโรงพยาบาลสนาม 490 คน ด้านผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลเมาท์เอลิซาเบธชี้ว่า การที่คนในสิงคโปร์สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะอย่างเคร่งครัดตามที่ทางการบังคับตั้งแต่เดือนเมษายนช่วยให้การระบาดลดความรุนแรงลง
ส่วนเรื่องที่สิงคโปร์ไม่นับรวมผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เสียชีวิตจากอาการอื่นที่ไม่ใช่ปอดอักเสบ ซึ่งเป็นไปตามนิยามขององค์การอนามัยโลกนั้น ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า จะทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตในสิงคโปร์เพิ่มขึ้น แต่บางคนคิดว่าจะส่งผลเพียงเล็กน้อย.- สำนักข่าวไทย