ออสเตรเลียเล็งค้ากับอินเดียมากขึ้น ลดพึ่งจีนเป็นหลัก

แคนเบอร์รา 16 ก.ย.- ความตึงเครียดกับจีนที่รุนแรงขึ้นทำให้ออสเตรเลียตระหนักแล้วว่าพึ่งพาจีนมากเกินไป และกำลังหาทางเพิ่มความสัมพันธ์กับอินเดีย ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจอีกแห่งหนึ่งในเอเชีย


เว็บไซต์บลูกเบิร์กระบุว่า ปีที่แล้วชาวอินเดียไปศึกษาต่อในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 32 เพิ่มขึ้นมากที่สุดในบรรดานักศึกษาต่างชาติทั้งหมด แซงหน้าจีนขึ้นเป็นประเทศที่มีคนย้ายถิ่นเข้าออสเตรเลียมากที่สุด เป็นชุมชนต่างชาติในออสเตรเลียใหญ่เป็นอันดับสามรองจากจีนและอังกฤษ คาดว่าจะแซงหน้าจีนในปี 2570 เป็นโอกาสให้ออสเตรเลียกระจายการค้าจากปัจจุบันที่เป็นประเทศพัฒนาแล้วที่พึ่งพาจีนมากที่สุด ประกอบกับความสัมพันธ์กับจีนเสื่อมทรามลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี เมื่อออสเตรเลียเรียกร้องให้เปิดการสอบสวนนานาชาติเรื่องต้นตอของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำให้จีนตอบโต้ด้วยการกำหนดอุปสรรคต่อการนำเข้าข้าวบาร์เลย์ เนื้อวัว ไวน์จากออสเตรเลีย

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียประชุมสุดยอดทางออนไลน์กับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียเมื่อเดือนมิถุนายน ลงนามข้อตกลงกลาโหมและยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ขณะที่รัฐมนตรีการค้าออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่นเห็นพ้องเรื่องจะสร้างความยืดหยุ่นด้านห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระห่างประเทศ มหาวิทยาลัยกริฟฟิธชี้ว่า ออสเตรเลียสามารถขายการศึกษา การดูแลสุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่อินเดีย เป็นเรื่องตลาดผู้บริโภคชนชั้นกลางอินเดียที่กำลังขยายตัวมากกว่าเรื่องสินค้า


อย่างไรก็ดี บลูมเบิร์กมองว่า การค้ากับอินเดียยังติดขัดเรื่องรัฐบาลอินเดียใช้นโยบายชาตินิยมทางเศรษฐกิจ เห็นได้จากการที่อินเดียถอนตัวจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรืออาร์เซ็ป (RCEP) เมื่อปีก่อน นักรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยแห่งเทคโนโลยีในซิดนีย์ชี้ว่า อินเดียกังวลมากเรื่องขาดดุลการค้า เพราะมีประสบการณ์มาแล้วกับการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น จึงเกรงว่าสินค้าเกษตรออสเตรเลียจะตีตลาดอินเดีย.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น