วอชิงตัน 3 ก.ย. – ทำเนียบขาวสหรัฐยืนยันว่า รัฐบาลทรัมป์ไม่ได้กำลังพิจารณาเรื่องการใช้นโยบาย “ภูมิคุ้มกันหมู่” ในการแก้ปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19
ดร. เดบอราห์ เบิร์กซ์ ผู้ประสานงานของชุดเฉพาะกิจของทำเนียบขาวเรื่องโรคโควิด-19 ยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้กำลังพิจารณาเรื่องการปล่อยให้ชาวอเมริกันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ตามธรรมชาติดังที่มีข่าวลือ
ดร. เบิร์กซ์กล่าวว่า ทั้งเธอและรัฐบาลสหรัฐไม่มีใครอยากจะสละชีวิตชาวอเมริกัน เพื่อให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ตามธรรมชาติ แต่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ด้วยการฉีดวัคซีนซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้อง หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า นายสกอตต์ แอตลาส ที่ปรึกษาเรื่องโรคระบาดคนใหม่ของทำเนียบขาวสนับสนุนให้รัฐบาลทรัมป์ยกเลิกข้อจำกัดทางสังคมและธุรกิจที่มุ่งหยุดการติดเชื้อจากการแพร่กระจายลงทั้งหมด เพื่อให้เกิดการติดเชื้อและมีภูมิคุ้มกันในสังคมจนมากพอเกิดเป็นภาวะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเรียกว่า “ภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ตามธรรมชาติ” ซึ่งจะทำให้คนอื่นๆ มีโอกาสที่จะติดเชื้อน้อยลง
สหรัฐ ซึ่งยังไม่มีมาตรการตอบสนองของรัฐบาลกลางในการจัดการกับไวรัส มีผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 แล้ว มากกว่า 6 ล้านคน เสียชีวิต 185,000 คน ซึ่งสูงที่สุดในโลก ขณะที่ ดร. แอนโธนี เฟาชี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้ออันดับต้นๆ ของสหรัฐ ยืนยันว่า ทำเนียบขาวไม่ได้ใช้นโยบาย “ภูมิคุ้มกันหมู่” แต่ใช้นโยบาย “ระบุ แยก และติดตามผู้ที่ติดต่อกับผู้ป่วย”.- สำนักข่าวไทย