เจนีวา 20 ส.ค.- องค์การอนามัยโลกเตือนว่า ยังไม่มีวี่แววที่คนบนโลกจะมีภูมิคุ้มกันหมู่ต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่จะสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้ จึงไม่ควรฝากความหวังไว้กับเรื่องนี้ในขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมทั่วโลกเกิน 22 ล้านคนแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ตามเวลาในไทย
ปกติแล้วภูมิคุ้มกันหมู่จะเกิดขึ้นเมื่อประชากรได้รับวัคซีน นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ประชากรอย่างน้อยร้อยละ 70 ต้องมีภูมิต้านทานจึงจะสามารถป้องกันการระบาดได้ ขณะที่นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า หากประชากรเพียงครึ่งหนึ่งมีภูมิต้านทานก็อาจป้องกันการระบาดได้ แต่ นพ.ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการเหตุฉุกเฉินทางสุขภาพขององค์การอนามัยโลกไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีนี้ เพราะยังไม่มีวี่แววที่โลกใกล้จะมีภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อหยุดยั้งโรคโควิด-19 ระบาด สิ่งนี้ไม่ใช่ทางออก และไม่ใช่สิ่งที่ควรมองหา ผลการศึกษาส่วนใหญ่จนถึงขณะนี้คาดว่า ประชากรโลกที่มีภูมิต้านทานโรคโควิด-19 มีเพียงร้อยละ 10-20 เท่านั้น
องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ทุกประเทศเร่งเข้าร่วมโคแว็กซ์ (COVAX ) ซึ่งเป็นโครงการแบ่งปันวัคซีนโลกภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ปัจจุบันมี 91 ประเทศลงนามเข้าร่วมแล้ว และอีก 80 ประเทศแสดงความสนใจแต่ยังไม่เข้าร่วมเต็มตัว ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกเตือนว่า หากทั่วโลกไม่ฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเสี่ยงสูงที่สุดพร้อมกันก็จะไม่มีทางฟื้นเศรษฐกิจโลกได้ วิธีหยุดยั้งการระบาดและเปิดเศรษฐกิจได้เร็วที่สุดต้องเริ่มด้วยการปกป้องกลุ่มเสี่ยงสูงที่สุดในทุกประเทศ ไม่ใช่ปกป้องคนทั้งประเทศของบางประเทศ พร้อมเผยว่าทันทีที่วัคซีนในโครงการโคแว็กซ์ที่องค์การอนามัยโลกเป็นแกนนำได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ร้อยละ 20 ของประชากรในแต่ละประเทศ ครอบคลุมบุคคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานแนวหน้า ผู้มีวัย 65 ปี ขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัว จะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรก.- สำนักข่าวไทย