ฟิลาเดลเฟีย 20 ส.ค.- อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐกลั้นน้ำตาขณะกล่าวทางไกลต่อที่ประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตเมื่อคืนวันพุธเมื่อพูดถึงชาวอเมริกันที่ต่อสู้กับการถูกกดขี่ และกล่าวถึงโดนัลด์ ทรัมป์ว่าไม่เติบโตในตำแหน่งประธานาธิบดีเพราะไม่สามารถทำได้
โอบามา วัย 59 ปี กล่าวด้วยความสะเทือนใจอย่างเห็นได้ชัดเจนเมื่อรำลึกถึงคนรุ่นก่อน ๆ รวมทั้งชาวอเมริกันผิวดำที่ถูกล่ามโซ่ เฆี่ยน และแขวนคอ ถูกถ่มน้ำลายใส่เพราะพยายามจะนั่งรับประทานมื้อเที่ยงในร้านเล็ก ๆ ถูกทำร้ายเพราะพยายามจะใช้สิทธิเลือกตั้ง ทุกคนล้วนเป็นลูกหลานของชาวอเมริกันผู้ต่อสู้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นคนงานทำงานหนักโดยไร้สิทธิ เกษตรกรที่ฝันสลาย คนเชื้อสายไอริช อิตาลี เอเชีย และลาตินที่ต้องซมซานกลับบ้านเกิด ชาวยิว คาทอลิก มุสลิมและซิกข์ที่ถูกมองการประกอบศาสนกิจด้วยสายตาเคลือบแคลง บรรพบุรุษชาวอเมริกันเหล่านี้ไม่ยอมแพ้แม้ไม่ได้รับประชาธิปไตย แต่ร่วมใจกันหาทางทำให้ประชาธิปไตยเป็นจริง เขาเห็นจิตวิญญาณเหล่านี้ในการประท้วงตลอด 4 ปีที่ผ่านมาและขอให้ยืนหยัดต่อสู้ต่อไป
โอบามาเล่าถึงเมื่อครั้งที่เลือกนายโจ ไบเดน เป็นผู้สมัครคู่ ลงเลือกตั้งรองประธานาธิบดีในปี 2551 ว่า ไม่คิดว่าจะได้พี่ชายมาหนึ่งคน เขาและไบเดนมาจากภูมิหลังที่ต่างกันและเป็นคนละวัย แต่รู้ซึ้งทันทีว่าไบเดนเป็นคนยืดหยุ่น มีความเห็นอกเห็นใจ และให้เกียรติผู้อื่นว่าทุกคนมีความสำคัญ ไบเดนอยู่กับเขาเป็นคนสุดท้ายทุกครั้งที่ต้องตัดสินใจเรื่องใหญ่ ๆ ตลอดการดำรงตำแหน่งนาน 8 ปี ทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีที่ดี จึงเป็นผู้ที่มีบุคลิกและประสบการณ์ที่จะทำให้สหรัฐดีขึ้น ส่วนแฮร์ริส เพื่อนของเขา เป็นหุ้นส่วนในอุดมคติของไบเดนที่มียิ่งกว่าความพร้อมในการทำหน้าที่ เธอรู้จักวิธีเอาชนะอุปสรรคและต่อสู้เพื่อช่วยให้ชาวอเมริกันได้มีชีวิตตามความฝัน
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐพรรคเดโมแครตใช้ถ้อยคำรุนแรงวิจารณ์ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันที่รับตำแหน่งต่อจากเขาว่า ไร้ความสามารถในการรับผิดชอบภารกิจในฐานะประธานาธิบดีและไม่สนใจที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง เขาไม่เคยคาดหวังว่าทรัมป์จะสานต่อวิสัยทัศน์หรือนโยบาย แต่ก็ไม่คิดว่าทรัมป์จะใช้การดำรงตำแหน่งเป็นรายการเรียลลิตีเรียกร้องความสนใจ ทรัมป์ไม่เคยเติบโตในตำแหน่งนี้เพราะไม่สามารถทำได้ ผลของความล้มเหลวนี้ร้ายแรงมาก ชาวอเมริกัน 170,000 คนต้องเสียชีวิต คนหลายล้านคนต้องตกงาน ชื่อเสียงที่น่าภาคภูมิใจของชาวอเมริกันมัวหมองไปทั่วโลก และสถาบันประชาธิปไตยถูกคุกคามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน.- สำนักข่าวไทย