เตหะราน 15 ส.ค.- อิหร่านแสดงความยินดีที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) ลงมติไม่รับญัตติของสหรัฐที่ต้องการให้ขยายมาตรการคว่ำบาตรอาวุธอิหร่านว่า สหรัฐไม่เคยถูกโดดเดี่ยวเช่นนี้มาก่อน
ประธานาธิบดีฮัสซัน โรว์ฮานีของอิหร่านกล่าวในการแถลงข่าวที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์วันนี้ว่า สหรัฐไม่สามารถล้มข้อตกลงปี 2558 ที่มหาอำนาจจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรแลกกับการที่อิหร่านจำกัดโครงการนิวเคลียร์ สหรัฐล้มเหลวในการแผนการคบคิดนี้อย่างน่าอดสู เขาเชื่อว่าเหตุการณ์วันนี้จะได้รับการบันทึกลงในประวัติศาสตร์ของอิหร่านและประวัติศาสตร์ของการต่อสู้กับความโอหังระดับโลก ด้านนายอับบาส มูซาวี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านทวีตว่า สหรัฐอเมริกาไม่เคยถูกโดดเดี่ยวแบบนี้มาก่อนนับตั้งแต่ยูเอ็นก่อตั้งมานาน 75 ปี สหรัฐระดมเสียงสนับสนุนได้ไม่กี่ประเทศ ทั้งที่ตระเวนเดินทางไปทั่ว กดดันและเร่ขายความคิด
ในบรรดาสมาชิกยูเอ็นเอสซี 15 ชาติ มีเพียง 2 ชาติเท่านั้นที่ลงมติสนับสนุนญัตติสหรัฐที่ต้องการให้ขยายมาตรการคว่ำบาตรอาวุธอิหร่านที่จะหมดอายุในวันที่ 18 ตุลาคมตามเงื่อนไขในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ขณะที่ชาติยุโรปที่เป็นพันธมิตรสหรัฐพากันงดออกเสียง อิหร่านเยาะเย้ยรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าได้เสียงสนับสนุนแค่ประเทศเดียวคือ สาธารณรัฐโดมินิกันในทะเลแคริบเบียน นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า เป็นเรื่องให้อภัยไม่ได้ที่ยูเอ็นเอสซีไม่ดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพสากล เอเอฟพีคาดว่า สหรัฐจะพยายามดำเนินการแต่ฝ่ายเดียวเพื่อบีบให้ยูเอ็นเอสซีใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เกิดวิกฤติทางการทูตร้ายแรงขึ้นในยูเอ็นเอสซี.-สำนักข่าวไทย